“พาณิชย์” เผย 2 จังหวัดใหญ่ ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์พบเข้าข่ายนอมินี 329 ราย เฉพาะชลบุรีเจอผิด 20 ราย ส่วนประจวบฯ ยอมรับผิดทันที 2 รายส่งดำเนินคดีแล้ว เผยอีก 3 จังหวัดสอบเสร็จ ก.พ.นี้ ที่เหลือ 71 จังหวัดตั้งเป้าก่อนสิ้นปีตรวจหมด
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงรายละเอียดการตรวจสอบนิติบุคคลไทยที่มีคนต่างด้าวถือหุ้นไม่เกิน 50% ในพื้นที่ 5 จังหวัดท่องเที่ยว ได้แก่ ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และกระบี่ ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวจำนวน 706 รายว่า ได้มีการตรวจสอบนิติที่เข้าข่ายมีคนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) และประกอบธุรกิจในบัญชีสงวนสำหรับคนไทยเสร็จแล้ว 2 จังหวัด คือ ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทั้ง 2 จังหวัดมีนิติบุคคลที่เข้าเกณฑ์เป็นนอมินีรวม 329 ราย แยกเป็นชลบุรี 303 ราย และประจวบคีรีขันธ์ 26 ราย
โดยในส่วนของจังหวัดชลบุรีตรวจสอบพบเบื้องต้นมี 20 รายทำธุรกิจตามบัญชีแนบท้าย 3 ซึ่งเป็นธุรกิจที่คนไทยยังไม่พร้อมแข่งขัน คือ นายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง การท่องเที่ยว การขายอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจบริการ เช่น ให้เช่าที่พัก ให้เช่ารถ บรรจุผลิตภัณฑ์ โรงกลึง บาร์และโต๊ะบิลเลียด โดยจะเรียกกรรมการมาตรวจสอบและให้ส่งเอกสาร หากไม่ผิดจะยุติเรื่อง หากผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือส่งกรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการ ขณะที่ 283 รายที่เหลือจะมีการตรวจสอบเชิงลึกต่อไป
ส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบพบ 2 รายมีการถือหุ้นแทนคนต่างชาติเพื่อทำธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์และตัดเย็บเสื้อผ้า ซึ่งได้ส่งดำเนินคดีตามมาตรา 36 และ 37 แล้ว ส่วนอีก 24 รายจะตรวจสอบเชิงลึกและหากพบผิดก็จะส่งดำเนินการ
สำหรับการตรวจสอบอีก 3 จังหวัดที่เหลือ คือ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และกระบี่ จะเริ่มดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.นี้ จากนั้นจะดำเนินการตรวจสอบในจังหวัดที่เหลืออีก 71 จังหวัด โดยจะดำเนินการตรวจสอบให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงรายละเอียดการตรวจสอบนิติบุคคลไทยที่มีคนต่างด้าวถือหุ้นไม่เกิน 50% ในพื้นที่ 5 จังหวัดท่องเที่ยว ได้แก่ ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และกระบี่ ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวจำนวน 706 รายว่า ได้มีการตรวจสอบนิติที่เข้าข่ายมีคนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) และประกอบธุรกิจในบัญชีสงวนสำหรับคนไทยเสร็จแล้ว 2 จังหวัด คือ ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทั้ง 2 จังหวัดมีนิติบุคคลที่เข้าเกณฑ์เป็นนอมินีรวม 329 ราย แยกเป็นชลบุรี 303 ราย และประจวบคีรีขันธ์ 26 ราย
โดยในส่วนของจังหวัดชลบุรีตรวจสอบพบเบื้องต้นมี 20 รายทำธุรกิจตามบัญชีแนบท้าย 3 ซึ่งเป็นธุรกิจที่คนไทยยังไม่พร้อมแข่งขัน คือ นายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง การท่องเที่ยว การขายอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจบริการ เช่น ให้เช่าที่พัก ให้เช่ารถ บรรจุผลิตภัณฑ์ โรงกลึง บาร์และโต๊ะบิลเลียด โดยจะเรียกกรรมการมาตรวจสอบและให้ส่งเอกสาร หากไม่ผิดจะยุติเรื่อง หากผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือส่งกรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการ ขณะที่ 283 รายที่เหลือจะมีการตรวจสอบเชิงลึกต่อไป
ส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบพบ 2 รายมีการถือหุ้นแทนคนต่างชาติเพื่อทำธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์และตัดเย็บเสื้อผ้า ซึ่งได้ส่งดำเนินคดีตามมาตรา 36 และ 37 แล้ว ส่วนอีก 24 รายจะตรวจสอบเชิงลึกและหากพบผิดก็จะส่งดำเนินการ
สำหรับการตรวจสอบอีก 3 จังหวัดที่เหลือ คือ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และกระบี่ จะเริ่มดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.นี้ จากนั้นจะดำเนินการตรวจสอบในจังหวัดที่เหลืออีก 71 จังหวัด โดยจะดำเนินการตรวจสอบให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้
