กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมเสนอ ครม.เห็นชอบวงเงินอุดหนุนการก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วม 5 นิคมฯ เหลือ 2.6 พันล้านบาท ลดลงไปกว่า 300 ล้านบาท นิคมฯ ไฮเทคเตรียมทำหนังสือยื่นอุทธรณ์ค้าน
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คาดว่าภายในวันที่ 5 ก.พ.กระทรวงอุตสาหกรรมจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบแนวทางการจ่ายเงินอุดหนุนการก่อสร้างเขื่อนป้องกันอุทกภัย 2 ใน 3 ของเงินลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการ 5 แห่ง ได้แก่ นิคมฯบางกะดี เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมฯ ไฮเทค (บ้านหว้า) เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร และสวนอุตสาหกรรมบางกะดี ที่ขณะนี้ได้สรุปวงเงินอุดหนุนเรียบร้อยแล้ว รวมวงเงินประมาณ 2,629 ล้านบาท
“หากไม่มีอะไรตามขั้นตอนหลังจากนี้ก็จะนำเสนอกรมบัญชีกลางในการพิจารณาเบิกจ่ายตามงวดงาน โดยคาดว่าจะเริ่มทยอยจ่ายได้ภายในไม่เกิน ก.พ.นี้ ซึ่งวงเงินรวมในการจ่ายอุดหนุนได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบและเป็นราคากลางที่เหมาะสม” นายวิฑูรย์กล่าว
แหล่งข่าวจากคณะทำงานพิจารณากำหนดราคากลางในการอุดหนุนเงินก่อสร้างเขื่อน 2 ใน 3 กล่าวว่า คณะทำงานกำหนดราคากลางที่มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานได้สรุปวงเงินอุดหนุนรวม 2,629 ล้านบาท ซึ่งลดลงประมาณ 300 กว่าล้านบาท จากที่มติ ครม.กำหนดวงเงินช่วยเหลือไว้ไม่เกิน 3,200 ล้านบาท (ใน 6 นิคมฯ) แต่สหรัตนนครยังไม่ได้ก่อสร้าง โดยแยกเป็นการอุดหนุน 5 รายดังนี้ 1. นิคมฯ ไฮเทค 222.56 ล้านบาท 2.นิคมฯ บางปะอิน 313.33 ล้านบาท 3. เขตประกอบการอุตฯ โรจนะ1,329 ล้านบาท 4. เขตส่งเสริมอุตฯ นวนคร 533.52 ล้านบาท และ 5. สวนอุตฯ บางกะดี 230.10 ล้านบาท
นายทวิช เตชะนาวากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยอินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมไฮเทค (บ้านหว้า) กล่าวว่า หลัง ครม.เห็นชอบบริษัทฯ จะทำหนังสือยื่นอุทธรณ์ไปยังปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเนื่องจากเห็นว่าราคากลางที่ยึดราคาจัดซื้อจัดจ้างปรับใหม่ไม่สอดคล้องกับราคาสัญญาจ้างเหมาในการก่อสร้างเขื่อนในขณะนั้น โดยฝ่ายรัฐได้อ้างอิงราคาวัสดุก่อสร้างต่างๆ ในสถานการณ์ปกติแต่การก่อสร้างจริงอยู่ท่ามกลางวิกฤต
“ผมคิดว่าราคาสัญญาจริงกับราคากลางมันต่างกันมาก อย่างของผมเป็น 100 ล้านบาท ง่ายๆ ช่วงนั้นกระสอบทรายเคยถุงละ 10 บาทยังกลายเป็น 30-40 บาทต่อถุงด้วยซ้ำไปแถมบางช่วงก็หาแทบไม่ได้ ส่วนกรณีการตีความว่าเงินที่จะได้รับการอุดหนุน 2 ใน 3 จะถือเป็นรายได้ที่จะนำมาคำนวณการจ่ายภาษีเงินได้หรือไม่นั้น ก็จะต้องเป็นอีกเรื่องที่จะต้องหารือคลังเพราะขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป” นายทวิชกล่าว
