xs
xsm
sm
md
lg

Good Morning News 28/01/56

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

General News

  • ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเดือน ม.ค.เพิ่มขึ้นเป็น 104.2 จาก 102.4 ในเดือนก่อน เพราะภาคธุรกิจมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อเศรษฐกิจเยอรมนีว่าจะต้านทานวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปได้

  • ECB เปิดเผยว่า สถาบันการเงินบางแห่งจะเริ่มชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนในวันที่ 30 ม.ค. 137.2 พันล้านยูโร (ก่อนกำหนด) หลังจากในช่วงต้นปี 2555 ECB เคยให้สถาบันการเงินในยุโรปกู้ยืมเงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง 3 ปีผ่านมาตรการ LTRO ที่เปิดโอกาสให้สถาบันการเงินชำระคืนเงินกู้ยืมก่อนกำหนดได้


แสดงว่า สถาบันการเงินในยุโรปมีสภาพคล่องเพียงพอต่อการดำเนินกิจการ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีขึ้นต่อการฟื้นตัว

  • GDP อังกฤษในไตรมาส 4 หดตัวลง 0.3%จากไตรมาส 3 หลังจากปัจจัยสนับสนุนจากโอลิมปิกได้หมดลง รวมทั้งผลผลิตจากธุรกิจเหมืองแร่ลดลงเพราะต้องปิดแท่นน้ำมันและแกสในทะเลเหนือเพื่อการบำรุงรักษา

  • ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐเดือนธ.ค.หดตัวลง 7.3% เหลือ 369,000 หลัง สวนทางกับที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ แสดงว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังผันผวนและต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัว

  • ดัชนีราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นในปีก่อนลดลง 0.1% ซึ่งลดลง 4 ปีติดต่อกัน โดยราคาสินค้าคงทนลดลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่าญี่ปุ่นยังคงเผชิญกับภาวะเงินฝืดต่อไป

  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น ย้ำว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะต้องดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินขนานใหญ่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายโดยเร็วที่สุด หลังจากที่ธนาคารกลางตัดสินใจจะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 2%


นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายจากรัฐบาลและการผ่อนคลายกฎระเบียบก็เป็นเรื่องจำเป็นต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน

  • ธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า สินเชื่อที่ปล่อยกู้ให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ในปีก่อนขยายตัว 12.8% สู่ 12.11 ล้านล้านหยวน โดยเป็นการเร่งตัวอย่างรวดเร็วในช่วงไตรมาสที่ 4 ตามสัญญาณการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์

  • เกาหลีเหนือ ออกแถลงการณ์ว่า หากเกาหลีใต้คว่ำบาตรครั้งใหม่ตามมติของ UN เพื่อตอบโต้ที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบการยิงจรวดพิสัยไกลไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา ก็จะเป็นเหมือนการประกาศสงคราม และเกาหลีเหนือจะดำเนินการตอบโต้การกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรง

  • รัฐบาลพม่าประกาศยกเลิกหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการเซ็นเซอร์สื่ออย่างเป็นทางการแล้ว และยังอนุญาตให้ภาคเอกชนสามารถจัดพิมพ์หนังสือพิมพ์รายวันในพม่าได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้ อันเป็นอีกก้าวสำคัญของพม่าในการเดินหน้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย

  • ก.พลังงาน อาจต้องเลื่อนการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ออกไปหลังเดือน เม.ย.-พ.ค. จากกำหนดเดิมในเดือน มี.ค. เนื่องจากต้องใช้เวลาสำรวจประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศก่อน


ทั้งนี้ การปรับขึ้นราคา LPG จะขึ้นทั้งภาคครัวเรือนและภาคขนส่ง เพื่อสะท้อนกับราคาหน้าโรงแยกก๊าซที่ได้จากอ่าวไทยซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 24 บาท/กก.(ราคา LPG ปัจจุบัน 18.13 บาท/กก.)

  • ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ธ.ค.เป็น 98.8 เพิ่มขึ้นจาก 95.2 ในเดือนก่อน เพิ่มขึ้นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากยอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย ปริมาณการผลิต และผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้น แต่ก็มีปัจจัยกดดันเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ ราคาวัตถุดิบและพลังงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และการขาดแคลนแรงงาน

  • ยอดผลิตรถยนต์ปีก่อนเท่ากับ 2.45 ล้านคัน สูงสุดในรอบ 51 ปี โดยเพิ่มขึ้น 68%จากปี 2554 ทำให้ไทยเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 10 ของโลก โดยผลิตเพื่อการส่งออก 1.02 ล้านคัน และจำหน่ายภายในประเทศ 1.43 ล้านคัน

  • ผอ.หลักสูตร MPA ของนิด้า กล่าวว่า เรื่องเงินบาทแข็งค่าขึ้นเป็นโอกาสสำคัญของรัฐบาลในการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากภาครัฐจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าทุนจากต่างประเทศมาใช้ในการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ซึ่งเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจะช่วยลดต้นทุนนำเข้าได้


Equity Market

  • SET Index ปิดตลาดที่ 1,461.41 จุด เพิ่มขึ้น 12.32 จุด หรือ +0.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 55,198.31 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,566 ล้านบาท


ทั้งนี้ ดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นนำโดยหุ้นกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างจากความคาดหวังต่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาทของภาครัฐ
Fix income market

  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย +0.01% ในพันธบัตรช่วงอายุ 6-10 ปี สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูลพันธบัตร

  • อินเดียขยายโควต้าการลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้สกุลเงินรูปีของนักลงทุนต่างชาติอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเป็นการขยายโควต้าการถือครองพันธบัตรรัฐบาลจาก 2 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็น 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และการถือครองหุ้นกู้จาก 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็น 5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนระยะกลางและระยะยาวจากต่างชาติให้เข้าสู่อินเดียมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นตลาดตราสารหนี้ในประเทศ และลดต้นทุนในการออกพันธบัตรและหุ้นกู้ลงได้

  • Jim O’Niel (Goldman Sach)


“ปีนี้ศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มดีขึ้นโดยดูจากจากดัชนีเศรษฐกิจ 7 อย่าง
1) ดัชนี PMI ของจีนในเดือน ม.ค.เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 51.5
2) ดัชนี PMI ของยูโรโซนปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 48.2
3) ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมันนีฟื้นตัวมาอยู่ที่ 104.2
4) ดัชนี PMI ของสหรัฐเร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ 56.1
5) ยอดขอสวัสดิการว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ 330,000 คน
6) ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนในเดือนธ.ค. และไตรมาส 4 มีสัญญาณขยายตัวชัดเจนขึ้น
7) ผลสำรวจผู้ประกอบการในญี่ปุ่น (TANKAN Survey) ปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนหลังจากนายกฯ ญี่ปุ่นประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ”
ทั้งนี้ อังกฤษเป็นประเทศเดียวที่ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวเช่นเดียวกับเศรษฐกิจโลก

  • Vincent Reinhart (Morgan Stanley)


“แม้สหรัฐจะผ่านพ้นภาวะหน้าผาทางการคลังได้สำเร็จ แต่การกระทำดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความเสี่ยงขึ้น 3 อย่าง
1) เพดานหนี้สหรัฐจะถึงจุดสูงสุดที่กำหนดไว้ และสหรัฐจะไม่สามารถกู้ยืมได้อีกต่อไป
2) นำไปสู่การปรับลดรายจ่ายตามมาตรการที่เคยกำหนดไว้ทันที
3) ต้องหยุดการใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่จำเป็น โดยตลาดหุ้นในปัจจุบันยังไม่สะท้อนกับความเสี่ยงดังกล่าว ถ้าเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อทั้งตลาดหุ้น เศรษฐกิจ และความเชื่อมั่น อีกทั้ง การจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อาจจะกระทบตลาดอีกด้วย
 
กำลังโหลดความคิดเห็น