ASTVผู้จัดการรายวัน - “กานต์” เตรียมบินพบนายกฯ เวียดนามต้น ก.พ.นี้ เพื่อหารือการลงทุน โดยเฉพาะโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ ส่วนดีลซื้อโรงงานกระเบื้องเซรามิกที่เวียดนามแล้วเสร็จ มี.ค.นี้ ยันไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท เหตุซื้อประกันความเสี่ยง 50% ของการส่งออกสุทธิ
นายกานต์ ตระกูนฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้จะเดินทางไปพบนายกรัฐมนตรีเวียดนามเพื่อเยี่ยมคาราวะและหารือการลงทุน เนื่องจากเครือเอสซีจีได้เข้ามาลงทุนธุรกิจต่างๆในเวียดนามเป็นจำนวนมาก รวมทั้งรายงานความคืบหน้าโครงการลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ มูลค่า 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐด้วย ขณะเดียวกันก็พบปะผู้ร่วมทุนโครงการลงทุนในเวียดนามด้วย
ส่วนความคืบหน้าการซื้อขายหุ้นบริษัท Prime Group ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตกระเบื้องเซรามิกรายใหญ่ของประเทศเวียดนาม ในสัดส่วนหุ้น 85% คิดเป็นมูลค่า 7,200 ล้านบาทนั้น คาดว่าดีลดังกล่าวจะดำเนินการซื้อขายหุ้นแล้วเสร็จ มี.ค.นี้ ทำให้บริษัทฯรับรู้รายได้จากบริษัทดังกล่าวนับตั้งแต่ เม.ย. 2556 โดยบริษัทดังกล่าวมีรายได้ปีละ 5 พันล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานมาโดยตลอด
ทั้งนี้ การเข้าซื้อโรงงานกระเบื้องเซรามิกที่เวียดนามนี้จะทำให้เอสซีจีมีกำลังการผลิตกระเบื้องเซรามิกเพิ่มขึ้นเป็น 225 ล้านตารางเมตร โดยแบ่งเป็นสัดส่วนในไทย 48% เวียดนาม 33% อินโดนีเซีย 14% และฟิลิปปินส์ 5%
สำหรับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น แต่ขณะนี้ค่าเงินเริ่มนิ่ง เชื่อว่าไม่ใช่การโจมตีค่าเงินบาท แต่เพราะมีเงินไหลเข้ามาซื้อตราสารหนี้ ซึ่งไม่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ที่ค่าเงินก็แข็งค่าขึ้นเช่นกัน ขณะเดียวกัน ธนาคารแห่งประเทศไทยก็มีการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจไทยก็แจ่มใส ปัจจุบันบริษัทมีการบริหารความเสี่ยงค่าเงิน โดยการซื้อประกันความเสี่ยงคิดเป็น 50% ของการส่งออกสุทธิ
ส่วนค่าเงินบาทแข็งค่าช่วงนี้ไม่มีผลต่อการเร่งซื้อกิจการในต่างประเทศ เนื่องจากการเข้าซื้อกิจการจะใช้เวลานานในการพิจารณาแต่ละโครงการก่อนตัดสินใจซื้อ