xs
xsm
sm
md
lg

“มิสทิน” ผลิต ตปท. หนีค่าแรง 300 บาท รุกเทรดดิ้ง-ขายออนไลน์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“มิสทิน” พลิกบทบาทจากขายตรงสู่เทรดดิ้งคอมปานีครบวงจร ทั้งผลิต ขาย ทำตลาด ลอจิสติกส์ หลังทุ่มงบ 2,000 ล้านบาทผุดดีซีใหม่ที่ลาดหลุมแก้ว จะเปิดใช้งานได้กลางปีนี้ พร้อมจ่อรุกช่องทางออนไลน์กับผู้บริโภคในปี 2557 หวังสัดส่วนรายได้ 20% ใน 5 ปี

นายดนัย ดีโรจน์วงศ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงแบรนด์มิสทิน เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะปรับบทบาทธุรกิจใหม่ด้วยการเป็นผู้ให้บริการการค้าแบบครบวงจร ทั้งการผลิต การขนส่ง การจัดจำหน่ายอย่างเต็มรูปแบบในปี 2557 จากการเป็นเพียงแค่ธุรกิจขายตรงเท่านั้น หลังจากที่แผนการก่อสร้างดีซีแห่งใหม่ที่ลาดหลุมแก้ว
ลงทุนมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานได้ภายในกลางปีนี้

โดยดีซีแห่งใหม่มีชื่อว่า เบตเตอร์แลนด์ มีพื้นที่ 70 กว่าไร่ เฟสแรกใช้ 50 กว่าไร่ พื้นที่ดีซีประมาณ 50,000 ตารางเมตร ใหญ่กว่าที่เดิมกว่า 4 เท่า ซึ่งจะย้ายดีซีเดิมจากรามคำแหงไปที่ใหม่ และจะลงทุนอีก 10 กว่าล้านบาทสำหรับเรื่องรถขนส่ง ส่วนจำนวนพนักงานก็จะใช้น้อยลงเหลือ 1 ใน 3 เพราะใช้เครื่องจักรไฮเทคโนโลยีมากขึ้น

ส่วนแผนการขยายฐานการผลิตในต่างประเทศนั้นอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อรองรับการเปิดเออีซีในปี 2558 ซึ่งจะพิจารณาว่าหากมีวัตถุดิบพร้อมและลดต้นทุนได้มากกว่า 10% ก็จะลงทุน โดยสนใจที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยเฉพาะปัญหาค่าแรงของไทยที่เพิ่มขึ้นเป็น 300 บาทต่อวันทำให้ต้นทุนขึ้น 5-10% หรือประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มีพนักงานมากกว่า 1,400 คน
จึงทำให้ปีนี้มีแผนจะปรับราคาขึ้น 3-5% สำหรับสินค้าใหม่

อย่างไรก็ตาม มีแผนจะขยายตลาดต่างประเทศด้วยนอกจากการผลิต หลังจากที่เริ่มขยายตลาดเข้าพม่าเมื่อ 10 ปีที่แล้วมียอดขาย 500 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะเพิ่มเป็น 600 ล้านบาท ล่าสุดเตรียมตั้งบริษัทร่วมทุนกับนักธุรกิจลาวตั้งบริษัทใหม่ที่ลาว และเปิดโชว์รูมด้วย คาดว่าเริ่มได้กลางปีนี้ หลังจากนั้นจะขยายต่อที่กัมพูชา อินโดนีเซีย โดยใช้โมเดลร่วมทุนทั้งหมด

นอกจากนั้นมีแผนที่จะรุกตลาดช่องทางออนไลน์มากขึ้นหลังจากที่ปีที่แล้วทดลองทำเฉพาะกลุ่มกับสาวมิสทินเท่านั้นยังไม่เปิดวงกว้าง มีสมาชิกสาวมิสทินประมาณ 1.2 ล้านราย มีสัดส่วนรายได้จากช่องทางออนไลน์ 7% ในปีที่แล้ว ส่วนปี 2557 จะเปิดกว้างทั่วไป ตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปี จะมีสัดส่วนรายได้จากออนไลน์ 20% จากรายได้รวม ใช้งบตลาดสำหรับออนไลน์ 300 ล้านบาท จากงบตลาดรวม 1,300 ล้านบาท และเพื่อป้องกันการซ้ำซ้อนกันระหว่างสินค้าของช่องทางสาวมิสทินกับช่องทางออนไลน์ จะมีสินค้าที่จำหน่ายแตกต่างกัน ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 200 เอสเคยูที่ขายผ่านออนไลน์

ตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มีทิศทางที่ดี เติบโตขึ้นอย่างมาก และยังสามารถขยายฐานไปยังกลุ่มวัยรุ่นได้ด้วย เพราะวัยรุ่นใช้เทคโนโลยีและโลกอินเทอร์เน็ตมากขึ้น และล่าสุดเราได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ 2 คน คือ ญาญ่า-อุรัสยา สเปอร์บันด์ และ มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง และเปิดตัวสินค้าใหม่ไอแอมคอลเลกชัน ใช้งบตลาดและหนังโฆษณรวม 50 ล้านบาทสำหรับคอลเลกชันนี้

นายดนัยกล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 13,700 ล้านบาท เติบโต 8% จากปีที่แล้วที่ทำได้ประมาณ 12,800 ล้านบาท เติบโต 7% มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 6% และคาดว่าภายใน 5 ปีข้างหน้าจากนี้จะมียอดรายได้รวม 30,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น