xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.จ่อลงทุนเพิ่มในอินโดนีเซีย ลุ้นร่วมทุนเปอร์ตามินาตั้ง “โรงกลั่น-ปิโตรฯ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไพรินทร์ ชูโชติถาวร
ASTVผู้จัดการรายวัน - ปตท.เดินหน้าสยายปีกลงทุนเพิ่มในอินโดนีเซียรองรับเออีซีปี 58 ลุ้นเปอร์ตามินาเลือกเป็นพาร์ตเนอร์โครงการลงทุนโรงกลั่นและปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ เม.ย.นี้ เผยเตรียมทำตลาดน้ำมันหล่อลื่นก่อนขยายสู่ค้าปลีกน้ำมัน “สรัญ” เผย 3 ปีข้างหน้าทุ่ม 2-3 พันล้านทำตลาดน้ำมันในเมียนมาร์

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท.มีเป้าหมายที่จะขยายการลงทุนด้านพลังงานและปิโตรเคมีเพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 โดยเฉพาะอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศนำเข้าด้านพลังงานและเป็นคู่ค้าที่สำคัญของบริษัท โดย ปตท.มีการขายน้ำมันดิบให้อินโดนีเซียวันละหลายแสนบาร์เรล หรือคิดเป็น 40%ของความต้องการใช้น้ำมันดิบของประเทศ รวมทั้งส่งออกเม็ดพลาสติกจากไทยไปจำหน่ายด้วย

นอกจากนี้ ปตท.ยังเข้าไปลงทุนธุรกิจเหมืองถ่านหิน ทำสวนปาล์มในอินโดนีเซียด้วย ขณะเดียวกัน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) ก็เข้าไปสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมในอินโดนีเซียแล้ว 5-6 แปลง ล่าสุด บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) ได้บันทึกความเข้าใจเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายการลงทุนโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ครบวงจร ร่วมกับเปอร์ตามินา ประเทศอินโดนีเซีย โดย PTTGC เป็น 1 ใน 3 รายที่เปอร์ตามินาที่พิจารณาให้เป็นผู้ร่วมทุนในโครงการลงทุนโรงกลั่นใหม่และปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ คาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือน เม.ย.-พ.ค. 2556 โดยโครงการนี้จะทำให้เปอร์ตามิน่ากลับมาเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่อีกครั้งเหมือนกับปิโตรนาสของมาเลเซีย และ ปตท.

เมื่อเร็วๆ นี้ ปตท.ได้เปิดสำนักงานตัวแทน บริษัท ปตท.ค้าสากล จำกัด และบริษัท พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัดที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อต่อยอดธุรกิจและยกระดับความพึงพอใจให้กับลูกค้า แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ของ PTTGC เนื่องจากเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อสูง แต่มีโรงกลั่นและโรงปิโตรเคมีน้อยกว่าความต้องการในประเทศที่มีประชากรถึง 250 ล้านคน

นายไพรินทร์กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันโรงกลั่นของอินโดนีเซียมีกำลังการผลิตรวม 1 ล้านบาร์เรล/วัน ส่วนใหญ่เป็นโรงกลั่นขนาดเล็กแค่แสนกว่าบาร์เรล/วันเท่านั้น ขณะนี้บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกได้เข้าไปศึกษาในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของโรงกลั่นเหล่านี้อยู่

ส่วนการลงทุนตั้งโรงกลั่นและปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในเวียดนามนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ ต้องรอคำตอบการสนับสนุนจากรัฐบาลเวียดนามเสียก่อน

นายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในการรุกตลาดน้ำมันในประเทศอินโดนีเซียนั้น คงจะเข้าไปทำตลาดน้ำมันหล่อลื่นให้เป็นที่รู้จักก่อนเหมือนประเทศอื่นๆ ในอาเซียน หลังจากนั้นจึงค่อยทำตลาดค้าปลีกน้ำมัน ซึ่งตลาดค้าปลีกน้ำมันในอินโดนีเซียมีการแข่งขันสูง และมีข้อจำกัดเกี่ยวกับกลไกรัฐด้วย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทฯให้ความสนใจในการรุกตลาดน้ำมันที่เมียนมาร์เป็นอันดับแรก รองลงมาคืออินโดนีเซีย โดย ปตท.จะใช้เงินลงทุนธุรกิจน้ำมันในเมียนมาร์ประมาณ 2-3 พันล้านบาทใน 3ปี ในธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น ซึ่ง ปตท.มีส่วนแบ่งตลาดน้ำมันหล่อลื่นในเมียนมาร์เป็นอันดับ 3 คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 คิดเป็นยอดขายน้ำมันเครื่อง 7-8 ล้านลิตร/ปี จากสิ้นปีก่อนมียอดขายอยู่ 5 ล้านลิตร/ปี

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเข้าไปให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน (เจ็ต) โดยร่วมมือกับรัฐวิสากิจของเมียนมาร์ และการรุกค้าปลีกน้ำมัน ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะปั๊มน้ำมันที่ย่างกุ้ง และสร้างคลังน้ำมันเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันเจ็ต และน้ำมันสำเร็จรูปด้วย โดยปลายปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเมียนมาร์มากขึ้นเนื่องจากเป็นประเทศเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาซีเกมส์ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น