เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำน้ำมันเครื่องในตลาดโลก “เชลล์” ออกหมายเชิญสื่อมวลชนร่วมเดินทางกับผู้โชคดีจากแคมเปญระดับโลก “ลุ้น..รับกุญแจขับดูคาติที่สเปนกับเชลล์ แอ๊ดว้านซ์ “ ชมการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ระดับโลก โมโตจีพี 2012 สนามที่ 18 แบบชิดติดขอบสนาม ณ เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน นอกจากนี้ยังได้พบปะทีมงานเชลล์โกลบอลและทีมดูคาติ โมโตจีพี เพื่อรับทราบข้อมูลและประสิทธิภาพแบบเจาะลึกของน้ำมันเครื่อง “เชลล์ แอ๊ดว้านซ์” ที่ช่วยตอบสนองและเพิ่มสมรรถนะให้กับเครื่องยนต์ของนักแข่ง
ที่สำคัญ “เอเอสทีวี ผู้จัดการรายวัน” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ แอนดรูว์ เฮปเปอร์ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อยานยนต์ บริษัท เชลล์ อินเตอร์เนชันแนล ปิโตรเลียม จำกัด ถึงทิศทางการทำตลาดน้ำมันหล่อลื่นของเชลล์ในการรุกสู่ตลาดโลก
แอนดรูว์ เฮปปอร์ กล่าวว่า ถ้าพูดถึงน้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์ เชลล์ คือผู้จำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นอันดับ 1 ของโลก 6 ปีติดต่อกัน โดยเริ่มจากปี 2006-2011 ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 13 % ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทฯ โดยเฉพาะภาพลักษณ์ของแบรนด์ถือว่าแข็งแกร่งมากในตลาด แต่สำหรับเชลล์ แอ๊ดว้านซ์ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับมอเตอร์ไซค์เรายังไม่ได้เป็นที่หนึ่ง เราอยากเติบโตมากขึ้นกว่านี้ โดยเฉพาะตลาดเอเชีย
สาเหตุที่เราหันมาเน้นตลาดเอเชีย เนื่องจากช่วงนี้เศรษฐกิจในยุโรปมีปัญหาอยู่และคงยากที่จะทำให้โตไปมากกว่านี้ แค่รักษาไม่ให้ตกก็ถือว่าดีแล้ว ขณะที่ตลาดในอเมริกาเชลล์ยังเป็นผู้นำและมีการเติบโตที่น่าพอใจแต่คงไม่โตเพิ่มขึ้นมากนัก ดังนั้นเอเชียจึงเป็นตลาดหลักที่เชลล์ให้ความสนใจและคาดว่าอนาคตจะเป็นตลาดที่มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย
ดังนั้นแผนในปีหน้าเป้าหมายของเชลล์คือ ตลาดเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นประเทศ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ไทย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ โดยทุกประเทศ เชลล์คาดหวังว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก พร้อมชูกลยุทธ์ในเรื่องของการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเริ่มเปิดตัวกับไทย และเวียดนาม เป็นประเทศแรก และหนังโฆษณาตัวใหม่ จะทำให้เราไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ
“เรายอมรับว่าการแข่งขันในตลาดน้ำมันหล่อลื่นสำหรับมอเตอร์ไซค์ค่อนข้างสูง และมีหลายแบรนด์ในตลาดที่เป็นคู่แข่ง และมีความแข็งแกร่งมาก อย่างคาลตรอล แต่เราจะพยายามเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้ได้มากขึ้นและออกผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมทุกตลาด เราเชื่อว่าแคมเปญใหม่จะทำให้เราโตขึ้นอยากน้อยสองตัวเลข ที่สำคัญปีหน้าเราจะเน้นสื่อดิจิตอลมากเป็นพิเศษ ซึ่งแน่นอนเชลล์จะโตมากกว่าเดิม”
แอนดรูว์ เฮปปอร์ กล่าวต่อว่า สำหรับเชลล์จะเน้นเรื่องเทคโนโลยีเป็นพิเศษ โดยบริษัทมีการลงทุนจำนวนมากเพื่อมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของนักขับ และเชื่อว่าหากเราสามารถตอบสนองได้ตรงจุด ลูกค้าจะมีความสุขและใช้สินค้าของเชลล์ต่อไปเรื่อยๆ และสิ่งที่เราเรียนรู้จากสนามแข่งเรานำมาต่อยอดความรู้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราด้วย
สำหรับประเทศไทยบริษัทเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องตัวใหม่ปีหน้า และตามด้วยประเทศเวียดนาม โดยผลิตภัณฑ์ใหม่จะเป็นน้ำมันเครื่องสำหรับรถจักรยานยนต์ออโตเมติก 4 จังหวะ เพราะทั้งสองประเทศเป็นตลาดใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังเตรียมแคมเปญใหม่ โปรแกรมใหม่ทางทีวี สื่อดิจิตอล แต่ยังไม่สามารถบอกได้ในตอนนี้ แต่เชื่อว่านักขับคนไทยจะรู้จักเชลล์ แอ๊ดว้านซ์ มากขึ้น บริษัทจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
ขณะที่ตลาดจีนทางเชลล์ได้ร่วมมือกับ ธงยี บริษัทชั้นนำของจีนมาช่วยในการจัดจำหน่ายน้ำมันเครื่องให้กับเชลล์ บริษัทดังกล่าวจะช่วยดูแลตลาด การจัดจำหน่าย เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่ใหญ่มาก จึงต้องอาศัยบริษัทที่มีประสบการณ์ที่ยาวนานและประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ เราจึงมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเราจะจำหน่ายได้มากโดยผ่านบริษัท ธงยี
“เราเพิ่งลงทุนสร้างโรงงานในจีน ผลิตจาระบี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตน้ำมันเครื่อง และล่าสุดได้เปิดโรงงานผลิตน้ำมันที่ใหญ่มากในรัสเซีย เราเริ่มที่จะออกมาลงทุนนอกยุโรปเพิ่มขึ้น”
ขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย เป็นอีกหนึ่งตลาดที่สำคัญสำหรับเชลล์ เพราะมีรถมอเตอร์ไซค์จำนวนมาก ดังนั้นบริษัทเตรียมแผนในการขยายเครือข่าย ร้านตัวแทนจำหน่ายน้ำมันมันเครื่องเพิ่มขึ้นและให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ พร้อมกับพยายามสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ถือว่าเป็นตลาดที่ท้าทายเพราะเป็นประเทศที่ใหญ่จึงต้องใช้การจัดการ การบริหารที่ดี
“หลายคนบอกว่าน้ำมันเชลล์จับตลาดระดับบน ซึ่งในความเป็นจริง เราเริ่มทำตลาด ผลิตน้ำมันให้กับตลาดระดับบนก่อน แต่อย่างไรเราก็จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมทุกตลาด โดยเฉพาะตลาดล่าง ทั้งนี้เพราะเป็นตลาดใหญ่ ที่สำคัญทุกคน ทุกกลุ่มคือลูกค้าของเรา และในปีหน้าเราจะผลิตสินค้าให้หลากหลายสำหรับคนทุกกลุ่ม” แอนดรูว์ เฮปเปอร์ กล่าวตบท้าย