“แรงงาน” เตรียมเสนอ 5 มาตรการเสริมช่วยลดผลกระทบผู้ประกอบการ SME จากขึ้นค่าแรง 300 บาท “เผดิมชัย” ชี้ข่าวการทยอยปิดโรงงานไม่เกี่ยวข้องกับการปรับขึ้นค่าแรง แต่มาจากปัญหาการเงินของโรงงานเอง
นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 ม.ค.นี้จะเสนอมาตรการเพิ่มเติม 5 ข้อเพื่อบรรเทาผลกระทบและช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี
มาตรการเพิ่มเติม ประกอบด้วย 1. ลดค่าธรรมเนียมห้องพักโรงแรม ที่พัก โดยจะลดอัตราค่าธรามเนียมการประกอบธุรกิจรายปีลงร้อยละ 50 จากปัจจุบันที่จัดเก็บห้องละ 80 บาท ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี 2. จัดคลินิกพัฒนาฝีมือแรงงานเคลื่อนที่ไปยังสถานศึกษา และสถานประกอบการ 3. เพิ่มอัตราค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมสัมมนาของส่วนราชการ โดยให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
4. การจัดคาราวานสินค้าราถูกไปจำหน้ายให้ลูกจ้างในสถานประกอบการ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์รับผิดชอบนำโครงการธงฟ้าไปจัดจำหน่าย 5. ลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากร้อยละ 3 เหลือร้อยละ 2 ซึ่งจะทำให้รายได้รถลดลงไปประมาณ 20,000 ล้านบาท จากที่เคยจัดเก็บได้ 60,000 ล้านบาทต่อปึ
ส่วนการปรับค่าแรง 300 บาท ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมานั้นยังคงใช้มาตรการช่วยเหลือเดิม ที่ใช้ในการปรับครั้งแรก 7 จังหวัด เช่น การช่วยเหลือการลดต้นทุนของผู้ประกอบการ การลดภาษีประกันสังคม การเสริมทักษะฝีมือแรงงานให้มีประสิทธิภาพรวมถึง การปล่อยเงินกู้จาก 5 ธนาคารหลัก ในการเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจต่างๆ
ทั้งนี้ เชื่อว่ามาตรการเพิ่มเติมที่ออกมาจะทำให้เอสเอ็มอีแข่งขันได้มากขึ้น ส่วนปัญหาการปิดตัวของโรงงานในจังหวัดสระบุรีนั้น นายเผดิมชัยชี้แจงว่า การปิดโรงงานไม่เกี่ยวข้องกับการปรับขึ้นค่าแรง แต่มาจากปัญหาการเงินของโรงงานเอง ซึ่งมองว่าผลกระทบการปรับขึ้นค่าแรงทั่วประเทศครังนี้จะประเมินได้ประมาณเดือนมีนาคม 2556 ดังนั้นในขณะนี้จึงถือว่าเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบ
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ยืนยันว่าไม่มีความจำเป็นต้องทบทวนสัญญาการก่อสร้างในโครงการต่างๆ ที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว แม้ว่าราคาค่าแรงขั้นต่ำที่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ต้นทุนผู้ประกอบการสูงขึ้น แต่จะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1-2 ของต้นทุนทั้งหมดเท่านั้น แต่ในส่วนของสัญญาใหม่ที่เตรียมเซ็นนั้น อาจจะมีผู้ประกอบการขอทบทวนต้นทุนการก่อสร้างโครงการ ซึ่งกระทรวงคมนาคมก็มีพร้อม เพราะถือเป็นปัจจัยต้นทุน ณ ปัจจุบันมากที่สุด