“พาณิชย์” จี้สตช.-ดีเอสไอ-ปอ.ศ. กวดขันตรวจจับสินค้าปลอมเน้นพื้นที่สีแดง สีเหลือง อย่าให้เหลือซาก พร้อมกำชับดูแลเป็นพิเศษช่วงใกล้ปีใหม่ เตรียมประกาศปี 56 เป็นปีแห่งการพิทักษ์ทรัพย์สินทางปัญญา
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมความร่วมมือในการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ์ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องว่า ได้ขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอ.ศ.) เข้มงวดกวดขันตรวจจับสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงที่มีการขายสินค้าละเมิดจำนวนมาก เช่น พันธุ์ทิพย์ บ้านหม้อ คลองถม มาบุญครอง พัฒน์พงศ์ และแหล่งท่องเที่ยวในต่างจังหวัด รวมถึงพื้นที่สีเหลือง ที่มีการขายสินค้าละเมิดเช่นกัน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ทั้งนี้ ในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ ขอให้เพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษด้วย เพราะเป็นโอกาสที่ผู้ค้าของปลอมจะนำสินค้ามาจำหน่าย โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
นอกจากนี้ ยังได้กำหนดให้ปี 2556 เป็นปีพิทักษ์ทรัพย์สินทางปัญญา โดยจะขอความร่วมมือให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมกันเข้มงวดกวดขันในการตรวจสอบการค้าขาย และการผลิต รวมถึงการนำเข้าสินค้าละเมิดจากต่างประเทศ ซึ่งหากพบกระทำความผิดให้ดำเนินการเอาผิดทันที รวมถึงให้รณรงค์ปลุกจิตสำนึกคนไทยไม่ให้ใช้สินค้าละเมิดด้วย โดยจะประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ให้สอดแทรกความรู้เข้าไปในหลักสูตรการเรียนการสอน รวมถึงจะประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ถือว่าการปราบปรามการละเมิดเป็นภารกิจสำคัญอย่างหนึ่งด้วย
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมความร่วมมือในการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ์ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องว่า ได้ขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอ.ศ.) เข้มงวดกวดขันตรวจจับสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงที่มีการขายสินค้าละเมิดจำนวนมาก เช่น พันธุ์ทิพย์ บ้านหม้อ คลองถม มาบุญครอง พัฒน์พงศ์ และแหล่งท่องเที่ยวในต่างจังหวัด รวมถึงพื้นที่สีเหลือง ที่มีการขายสินค้าละเมิดเช่นกัน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ทั้งนี้ ในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ ขอให้เพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษด้วย เพราะเป็นโอกาสที่ผู้ค้าของปลอมจะนำสินค้ามาจำหน่าย โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
นอกจากนี้ ยังได้กำหนดให้ปี 2556 เป็นปีพิทักษ์ทรัพย์สินทางปัญญา โดยจะขอความร่วมมือให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมกันเข้มงวดกวดขันในการตรวจสอบการค้าขาย และการผลิต รวมถึงการนำเข้าสินค้าละเมิดจากต่างประเทศ ซึ่งหากพบกระทำความผิดให้ดำเนินการเอาผิดทันที รวมถึงให้รณรงค์ปลุกจิตสำนึกคนไทยไม่ให้ใช้สินค้าละเมิดด้วย โดยจะประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ให้สอดแทรกความรู้เข้าไปในหลักสูตรการเรียนการสอน รวมถึงจะประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ถือว่าการปราบปรามการละเมิดเป็นภารกิจสำคัญอย่างหนึ่งด้วย
