“ณัฐวุฒิ” สั่ง ปอศ.-ดีเอสไอเกาะติดและตรวจสอบเชิงลึก หวังจับตัวใหญ่ผลิตและขายสินค้าปลอม ส่วนรายย่อยให้เพิ่มการจับกุม เน้นทำเป็นความลับ หวั่นไหวตัวทัน พร้อมขอศุลกากรตรวจสอบสินค้าปลอมลักลอบนำเข้า
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมความร่วมมือในการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วานนี้ (11 ธ.ค.) ว่า ได้ทำการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยขอให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มุ่งเน้นการจับกุมกลุ่มเป้าหมายที่ละเมิดรายใหญ่ ทั้งผู้ผลิตและจำหน่าย ซึ่งเบื้องต้นให้มีการเกาะติดใกล้ชิด ทั้งการตรวจสอบการสื่อสารและเส้นทางการเงิน คาดว่าเร็วๆ นี้จะจับกุมได้
ส่วนแหล่งที่จำหน่ายสินค้าละเมิดได้ขอให้มีการจับกุมให้มากขึ้น และต่อไปจะกระทำเป็นความลับ เพื่อป้องกันข่าวรั่วทำให้ผู้ค้าไหวตัวทันและหลบหนีการจับกุม และยังจะขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของสิทธิขออย่ายอมความในคดีที่จับกุมได้ เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ประกอบการบางรายไปจับกุมแล้วก็ยอมความ จากนั้นก็ไปจับกุมและยอมความอีก ซึ่งต่อไปจะมีการจัดทำบัญชีผู้ประกอบการที่มีการยอมความและเผยแพร่ออกมา
สำหรับการป้องกันสินค้าละเมิดที่จะเข้ามาตามแนวชายแดน ได้ขอความร่วมมือไปยังกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการเข้มงวดที่ด่านนำเข้า และตามแนวตะเข็บชายแดน รวมทั้งขอให้มีการประสานงานไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่คาดว่าจะเป็นแหล่งผลิต แหล่งพักสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อขอความร่วมมือในการตรวจสอบและจับกุมเพื่อป้องกันไม่ให้หลุดรอดเข้ามาในไทยด้วย
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมความร่วมมือในการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วานนี้ (11 ธ.ค.) ว่า ได้ทำการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยขอให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มุ่งเน้นการจับกุมกลุ่มเป้าหมายที่ละเมิดรายใหญ่ ทั้งผู้ผลิตและจำหน่าย ซึ่งเบื้องต้นให้มีการเกาะติดใกล้ชิด ทั้งการตรวจสอบการสื่อสารและเส้นทางการเงิน คาดว่าเร็วๆ นี้จะจับกุมได้
ส่วนแหล่งที่จำหน่ายสินค้าละเมิดได้ขอให้มีการจับกุมให้มากขึ้น และต่อไปจะกระทำเป็นความลับ เพื่อป้องกันข่าวรั่วทำให้ผู้ค้าไหวตัวทันและหลบหนีการจับกุม และยังจะขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของสิทธิขออย่ายอมความในคดีที่จับกุมได้ เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ประกอบการบางรายไปจับกุมแล้วก็ยอมความ จากนั้นก็ไปจับกุมและยอมความอีก ซึ่งต่อไปจะมีการจัดทำบัญชีผู้ประกอบการที่มีการยอมความและเผยแพร่ออกมา
สำหรับการป้องกันสินค้าละเมิดที่จะเข้ามาตามแนวชายแดน ได้ขอความร่วมมือไปยังกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการเข้มงวดที่ด่านนำเข้า และตามแนวตะเข็บชายแดน รวมทั้งขอให้มีการประสานงานไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่คาดว่าจะเป็นแหล่งผลิต แหล่งพักสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อขอความร่วมมือในการตรวจสอบและจับกุมเพื่อป้องกันไม่ให้หลุดรอดเข้ามาในไทยด้วย
