“ทอมสัน รอยเตอร์” หวังเพิ่มศักยภาพองค์กรไทย เร่งเสริมบริการจัดหาข้อมูลอัจฉริยะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านงานวิจัยและพัฒนาๆ ในทุกภาคส่วน พร้อมกระตุ้นให้องค์กรไทยเห็นความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีที่ยังขาดความเข้าใจทางด้านสิทธิบัตร
นายเว่ย ฟู วอง กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชีย ทอมสัน รอยเตอร์ ให้ข้อมูลถึงหน่วยธุรกิจทรัพย์สินทางปัญญา และวิทยาศาสตร์ของทอมสัน รอยเตอร์ ว่า ถือเป็นหนึ่งใน 4 หน่วยธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง เนื่องมาจากปัจจุบันการนำข้อมูลอัจฉริยะมาช่วยวิเคราะห์ในแง่ของการทำธุรกิจได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น
“ทอมสัน รอยเตอร์ถือเป็นบริษัทที่มีฐานข้อมูลอยู่กว้างขวางทั่วทุกมุมโลก ดังนั้น ด้วยระบบบริหารจัดการข้อมูลของบริษัทจะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถประเมินผลล่วงหน้าของธุรกิจที่วางแผนจะให้เกิดการเติบโตได้ รวมถึงลดการเข้าถึงข้อมูลที่ซ้ำซ้อนของแต่ละหน่วยงานภายในบริษัท”
ปัจจุบันหน่วยธุรกิจทรัพย์สินทางปัญญาฯ มีอัตราการเติบโตราว 15-20% ต่อปีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าหลังจากที่มีการแต่งตั้งพนักงานในไทยอย่างเป็นทางการแล้วจะมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแผนที่จะขยายพนักงานเพิ่ม ตามความต้องการโซลูชันเกี่ยวกับการให้บริการข้อมูลของตลาดในประเทศไทย
ทั้งนี้ ทอมสัน รอยเตอร์แบ่งหน่วยธุรกิจหลักออกเป็น 4 ส่วน คือ หน่วยธุรกิจด้านการเงิน หน่วยธุรกิจด้านกฎหมาย หน่วยธุรกิจด้านภาษีและการบัญชี และหน่วยธุรกิจทรัพย์สินทางปัญญาฯ ซึ่งปีที่ผ่านมามีรายได้ 12.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีฐานลูกค้าหลักมาจากแถบประเทศในกลุ่มสหรัฐฯ รองลงมาเป็นกลุ่มยุโรป และเอเชีย ด้วยส่วนแบ่ง 58% 30% และ 12% ตามลำดับ
“จากสัดส่วนตลาดดังกล่าวทำให้ทอมสัน รอยเตอร์ เล็งเห็นว่ายังมีช่องว่างให้สามารถเติบโตในกลุ่มประเทศแถบเอเชียได้ จึงหันเข้ามาเริ่มให้บริการโซลูชันเกี่ยวกับการบริหารจัดการข้อมูลอัจฉริยะ ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีลูกค้าในกลุ่มภาคการศึกษา อุตสาหกรรมโทรคมนาคม อุตสาหกรรมการผลิต โดยจะเน้นไปที่องค์กรที่ต้องการนำข้อมูลการวิจัยไปต่อยอดเพื่อพัฒนาการให้บริการเป็นหลัก”
นอกจากนี้ ยังมองไปถึงการให้บริการแก่กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีที่ขาดความเชี่ยวชาญและเข้าใจในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญา เพื่อช่วยให้กลุ่มธุรกิจดังกล่าวสามารถปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาที่คิดค้นขึ้นได้ รวมถึงเรื่องของการจดสิทธิบัตร และตรวจสอบคู่แข่งด้วย
“ในภูมิภาคเอเชีย ไทยถือเป็นประเทศที่มีการคิดค้นงานวิจัยเป็นอันดับ 3 รองจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย แต่กลับกัน ถ้ามองในมุมของการนำงานวิจัยที่มีคุณภาพมาต่อยอดกลับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 รองจากสิงคโปร์ ทำให้เห็นว่าประเทศไทยมีการคิดค้นงานวิจัยที่มีคุณภาพมากกว่า และจากตรงนี้เมื่อทอมสัน รอยเตอร์ เข้ามาให้บริการโซลูชันดังกล่าว ก็จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการคิดค้นและพัฒนาเพิ่มขึ้นอีก”
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมหาวิทยาลัยในประเทศไทย 50 อันดับแรกต่างใช้โซลูชันของทอมสัน รอยเตอร์ เพื่อให้บริการข้อมูลงานวิจัยต่างๆ แก่นักศึกษาอยู่แล้ว รวมถึงหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนางานวิจัย ขณะเดียวกัน จากการที่มีโซลูชันดังกล่าวจะช่วยประสานการทำงานของ 3 กลุ่มอาชีพ คือ ฝ่ายไอที นักวิทยาศาสตร์ และนักการตลาดให้เข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น
ที่ผ่านมากรณีศึกษาที่สำคัญของหน่วยธุรกิจทรัพย์สินทางปัญญา ทอมสัน รอยเตอร์ คือการฟ้องร้องสิทธิบัตรระหว่างแอปเปิล กับซัมซุง โดยข้อมูลการจดสิทธิบัตรของแอปเปิลที่ทอมสัน รอยเตอร์ ช่วยให้แอปเปิลสามารถปกป้องสิทธิบัตรที่ถูกซัมซุงละเมิดได้
Company Relate Link :
Thomson Reuters