xs
xsm
sm
md
lg

3จีส่งรีเทล-ดีไวท์ปีหน้าบูม เจาะตรง 4 เทรนด์ถึงผู้บริโภค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นางสาววฤตดา วรอาคม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านนวัตกรรม (ซีไอโอ) แมคแคน เวิล์ดกรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ทางบริษัท โดย แมคแคน ทรูธ เซ็นทรัล ได้ทำการวิเคราะห์เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2556 ออกมาได้ 4 แนวทางหลัก คือ 1. การค้นหาความจริง 2. การทำตามใจปรารถนา 3. การเป็นผู้บุกเบิก และ 4. การเปล่งแสงแห่งความดี โดยแต่ละแนวคิดยังได้แบ่งออกเป็นเทรนด์หลักๆ ได้อีก 8 เทรนด์ ดังนี้

1. การค้นหาความจริง จะเห็น 1 เทรนด์คือ ทุกกระบวนการจากไร่สู่อาหาร กล่าวคือ จากกระแสเรื่องการดูแลสุขภาพ ทำให้ผู้บริโภคใส่ใจสิ่งที่ตนเองรับประทานเป็นอย่างมาก จะเริ่มลงลึกไปถึงกระบวนการผลิตอาหารตั้งแต่ประโยชน์ของส่วนผสมแต่ละชนิด กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมไปถึงการดูรายงานที่วัดผลได้ เช่น ระยะทางอาหาร (Food Miles) หรือคาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon Footprint) เป็นต้น จึงคาดการณ์ได้ว่าในปี 2556 ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญต่อการศึกษาประวัติ จุดมุ่งหมาย และจุดยืนของแบรนด์มากยิ่งขึ้น

2. ทำตามใจปรารถนา จะเห็น 3 เทรนด์ คือ 1. ยุคแห่งการผสมผสานด้านวัฒนธรรมและความคิด กล่าวคือ ในยุคที่นวัตกรรมและโลกดิจิตอลได้สร้างนิยามใหม่ให้แกก่ “ความแปลกใหม่” จะได้เห็นการผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรม การประยุกต์ศิลปะ และการร่วมกันสร้างสินค้าและบริการที่มีความเฉพาะตัว โดยแบรนด์และผู้บริโภคที่จะถูกถ่ายทอดผ่านทุกมุมมองของการสื่อสาร 2. เยียวยาอารมณ์ด้วยกลิ่นสัมผัส หมายถึงความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน จะได้เห็นสินค้าและบริการแปลกใหม่ที่จะให้ผู้บริโภครู้สึกผ่อนคลายราวกับอยู่ในสปาตลอดเวลา และ 3. สวรรค์แห่งการชอป หมายถึง เมื่อผู้บริโภคในเมืองใหญ่มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน จะได้เห็นวิวัฒนาการที่ “ล้ำหน้ากว่าการซื้อขายในร้านค้าปลีก” ทำให้เกิดประสบการณ์ใหม่ในการเลือกซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน

3. การเป็นผู้บุกเบิก จะได้เห็น 2 เทรนด์ คือ 1. ยุคแห่งการเติมเต็มจินตนาการ หมายถึง “จงคาดหวังในสิ่งที่ไม่คาดฝัน” คือคอนเซ็ปต์ของนวัตกรรมใหม่ๆ จากเทคโนโลยีที่จะถูกสร้างสรรค์ที่ก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดเดิมๆ 2. ยุคทองของเอเชีย หมายถึง จากความสำเร็จของสุดยอดเพลงดังแห่งยุคอย่าง กังนัมสไตล์ และปรากฏการณ์แอปพลิเคชันยอดฮิตอย่าง LINE ในปีหน้ากระแสวัฒนธรรมแบบเอเชียจะยังคงความแรงไม่มีตก และทั่วโลกก็คงกำลังจับตามองอยู่ว่า “จะมีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นอีก”

และ 4. การเปล่งแสงแห่งความดี จะได้เห็น 2 เทรนด์ คือ 1. การสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง กล่าวคือ ผู้คนทุกวันนี้มองหาความคิด หรือข้อความที่จะสร้างแรงบันดาลใจในแต่ละวัน ผู้บริโภคใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ในการทำให้ชีวิตในแต่ละวันมีความสุขขึ้น นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าแบรนด์ต่างๆ ก็แข่งกันออกแคมเปญที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและพัฒนาสังคม 2. องค์กรเพื่อโลก กล่าวคือ การที่แบรนด์ต่างๆ ให้ความสำคัญต่อการทำความดี รวมไปถึงการร่วมมือกับองค์กรไม่หวังผลกำไร ผนวกกับความต้องการในการ “สร้างความแตกต่าง” ให้สังคมของผู้บริโภค นักการตลาดก็จะใช้ความคิดสร้างสรรค์และปรัชญาในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มาเป็นจุดขาย ขณะที่ผู้บริโภคจะมีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือสังคมร่วมกับองค์กรมากยิ่งขึ้น

“เทรนด์ในปีหน้าจะมีความแตกต่างออกไปจากปีก่อนๆ ตรงที่ แทนที่นักการตลาดจะให้ความสำคัญต่อการพัฒนาด้านนวัตกรรมให้แก่แบรนด์และการพัฒนาสื่อดิจิตอลแต่เพียงอย่างเดียว ในปีหน้าแบรนด์จะให้ความสนใจการสร้างประสบการณ์ผ่านประสาทสัมผัสและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น กล่าวคือ เทรนด์ในปีหน้าจะมุ่งเน้นไปที่การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาผสมผสานกับความปรารถนาของผู้บริโภค และสำหรับนักการสื่อสาร ปี 2556 คือการมุ่งเน้นไปที่กลวิธีที่จะสร้างความน่าภาคภูมิใจในแบรนด์ การสร้างประสบการณ์ที่สัมผัสได้ และการใส่ความมีชีวิตจิตใจลงไปในแบรนด์เพื่อให้ผู้คนรู้สึกเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน”

นางสาววฤตดากล่าวต่อว่า จากเทรนด์ผู้บริโภคในปี 2556 สามารถสรุปได้ว่า ทั้ง 8 เทรนด์ล้วนก่อให้เกิดการใช้เทคโนโลยีเพื่อนำมาตอบโจทย์อินไซด์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น ส่วนสำคัญมาจาก 3จี ที่จะทำให้การใช้งานดีไวท์ผ่านอินเทอร์เน็ตมีสูงขึ้น อันนำมาซึ่งการแข่งขันของตลาดดีไวท์และมือถือจะสูงขึ้นตามไปด้วย จากปัจจุบันที่พบว่ามีคนใช้สมาร์ทโฟนที่ 27% ของจำนวนประชากร และใช้แท็บเล็ต 8% ของจำนวนประชากร ขณะที่แนวทางที่หนึ่งคือ การค้นหาความจริงนั้นจะเป็นโอกาสของกลุ่มสินค้าประเภทอาหาร บิวตี้ อุปโภคบริโภค โดยเฉพาะแบรนด์เล็กหรือโลคัลแบรนด์ นอกจากนี้ยังจะได้เห็นช่องทางรีเทลรุกการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น และเป็นการทำตลาดที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคแบบปัจเจกบุคคลมากขึ้นกว่าปัจจุบัน
กำลังโหลดความคิดเห็น