“ดีเอชเอ” เร่งปั้นปากกาแบรนด์ “อาร์ติแฟ็ค” ลุยอาเซียน ส่วนในไทยหวังดันขึ้นติดท็อปทรีปากการะดับพรีเมียม คาดทั้งปีนี้ยอดขายกลุ่มปากกาทั้งหมดทะลุ 700 ล้านบาท
นายกรรณกร คมนา ผู้อำนวยการบริหารผลิตภัณฑ์สินค้ากลุ่มปากกาและอุปกรณ์ศิลป์ บริษัท ดี เอช เอ สยามวาลา จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะนำปากกาแบรนด์ “อาร์ติแฟ็ค” ที่บริษัทสร้างขึ้นมาเองและทำตลาดมานานกว่า 3 ปีแล้วไปขยายต่างประเทศในตลาดอาเซียนในปีหน้าอย่างจริงจัง รวมทั้งจะขยายตลาดส่งออกไปในประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และยุโรป โดยวางเป้าหมายระยะยาวในอนาคตจะต้องเป็นแบรนด์ระดับอินเตอร์เนชันแนล
จากปัจจุบันที่มีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย (ดีซี) ในอาเซียนแล้ว 4-5 ประเทศ เช่น อินโดนีเซีย พม่า และบรูไน เป็นต้น กลุ่มเป้าหมายหลักที่เจาะตลาดคืออายุ 23-35 ปีในอาเซียนที่มีจำนวน 180 ล้านคน และมีไลฟ์สไตล์ เอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยตั้งเป้าหมายสัดส่วนของยอดการส่งออกไว้ที่ 40% ของยอดขายรวมแบรนด์ดังกล่าวภายใน 3 ปีข้างหน้า
สำหรับแผนธุรกิจในตลาดประเทศไทย นายกรรณกรกล่าวว่า บริษัทฯ วางเป้าหมายจะผลักดันให้ปากกาแบรนด์อาร์ติแฟ็คเป็นผู้นำ 1 ใน 3 ของตลาดปากการะดับบน (พรีเมียม) ที่มีมูลค่าตลาด 500 ล้านบาทภายใน 5 ปีจากนี้ จากปัจจุบันอยู่ในอันดับ 4 ของตลาดปากการะดับบน โดยอาร์ติแฟ็คมีราคาตั้งแต่ 500-1,250 บาท
ทั้งนี้ ตลาดปากกาของไทยมีมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ปากการะดับพรีเมียม หรือปากกาที่มีไลฟ์สไตล์ ประมาณ 500 ล้านบาท เติบโต 10-15% จากปีก่อน ยังมีการเติบโตที่ดี ส่วนตลาดปากการะดับกลางและล่างมีมูลค่า 1,500 ล้านบาท เติบโต 7-8% จากปีก่อน ถือว่าเป็นตลาดที่อิ่มตัวพอสมควร
โดยล่าสุดใช้งบการตลาด 10 ล้านบาททำแคมเปญใหญ่ โดยได้ศิลปิน 3 คนได้แก่ “ก้อย-แซทเทอร์เดย์ เซโกะ” “ป๊อด โมเดิร์นด๊อก” และ “นิ้วกลม” มาเป็นดีไซเนอร์พิเศษออกแบบปากการุ่นลิมิเต็ด ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 900 ด้ามเท่านั้น เพื่อเป็นตัวแทนของปากกาอาร์ติแฟ็คที่มีไลฟ์สไตล์ของตัวเองที่ชัดเจน และถือเป็นครั้งแรกที่ใช้ศิลปินมาร่วมออกแบบ เจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่อายุ 25-35 ปี
ส่วนปี 2556 มีแผนใช้งบการตลาดประมาณ 20 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 30% ของยอดขายรวม ผ่านการสร้างแบรนด์โดยใช้ดีไซเนอร์ที่มีเอกลักษณ์ และเตรียมขยายไลน์สินค้าอาร์ติแฟ็คให้หลากหลายมากขึ้น หรือมีสินค้าที่เป็นอุปกรณ์สำนักงานออกมาสู่ตลาด
สำหรับยอดขายรวมปากกาอาร์ติแฟ็คปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 60 ล้านบาท และมาจากการส่งออกกว่า 10 ล้านบาท เติบโต 100% และในปีหน้าคาดว่ายอดขายจะเติบโตมากกว่า 100 ล้านบาท และคาดว่าอีก 3 ปีจากนี้จะมียอดขายรวมทั้งในประเทศและส่งออกประมาณ 200-250 ล้านบาท
ขณะที่ภาพรวมยอดขายของกลุ่มปากกาของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 700 ล้านบาท โดยยอดขายหลักมาจากปากกาควอนตั้ม ประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นแบรนด์ที่บริษัทสร้างเอง และเจาะกลุ่มตลาดกลาง รองลงมาเป็นแบรนด์ ครอส นำเข้ามาจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียม และที่เหลือเป็นแบรนด์ใหม่อาร์ติแฟ็ค
นายกรรณกร คมนา ผู้อำนวยการบริหารผลิตภัณฑ์สินค้ากลุ่มปากกาและอุปกรณ์ศิลป์ บริษัท ดี เอช เอ สยามวาลา จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะนำปากกาแบรนด์ “อาร์ติแฟ็ค” ที่บริษัทสร้างขึ้นมาเองและทำตลาดมานานกว่า 3 ปีแล้วไปขยายต่างประเทศในตลาดอาเซียนในปีหน้าอย่างจริงจัง รวมทั้งจะขยายตลาดส่งออกไปในประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และยุโรป โดยวางเป้าหมายระยะยาวในอนาคตจะต้องเป็นแบรนด์ระดับอินเตอร์เนชันแนล
จากปัจจุบันที่มีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย (ดีซี) ในอาเซียนแล้ว 4-5 ประเทศ เช่น อินโดนีเซีย พม่า และบรูไน เป็นต้น กลุ่มเป้าหมายหลักที่เจาะตลาดคืออายุ 23-35 ปีในอาเซียนที่มีจำนวน 180 ล้านคน และมีไลฟ์สไตล์ เอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยตั้งเป้าหมายสัดส่วนของยอดการส่งออกไว้ที่ 40% ของยอดขายรวมแบรนด์ดังกล่าวภายใน 3 ปีข้างหน้า
สำหรับแผนธุรกิจในตลาดประเทศไทย นายกรรณกรกล่าวว่า บริษัทฯ วางเป้าหมายจะผลักดันให้ปากกาแบรนด์อาร์ติแฟ็คเป็นผู้นำ 1 ใน 3 ของตลาดปากการะดับบน (พรีเมียม) ที่มีมูลค่าตลาด 500 ล้านบาทภายใน 5 ปีจากนี้ จากปัจจุบันอยู่ในอันดับ 4 ของตลาดปากการะดับบน โดยอาร์ติแฟ็คมีราคาตั้งแต่ 500-1,250 บาท
ทั้งนี้ ตลาดปากกาของไทยมีมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ปากการะดับพรีเมียม หรือปากกาที่มีไลฟ์สไตล์ ประมาณ 500 ล้านบาท เติบโต 10-15% จากปีก่อน ยังมีการเติบโตที่ดี ส่วนตลาดปากการะดับกลางและล่างมีมูลค่า 1,500 ล้านบาท เติบโต 7-8% จากปีก่อน ถือว่าเป็นตลาดที่อิ่มตัวพอสมควร
โดยล่าสุดใช้งบการตลาด 10 ล้านบาททำแคมเปญใหญ่ โดยได้ศิลปิน 3 คนได้แก่ “ก้อย-แซทเทอร์เดย์ เซโกะ” “ป๊อด โมเดิร์นด๊อก” และ “นิ้วกลม” มาเป็นดีไซเนอร์พิเศษออกแบบปากการุ่นลิมิเต็ด ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 900 ด้ามเท่านั้น เพื่อเป็นตัวแทนของปากกาอาร์ติแฟ็คที่มีไลฟ์สไตล์ของตัวเองที่ชัดเจน และถือเป็นครั้งแรกที่ใช้ศิลปินมาร่วมออกแบบ เจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่อายุ 25-35 ปี
ส่วนปี 2556 มีแผนใช้งบการตลาดประมาณ 20 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 30% ของยอดขายรวม ผ่านการสร้างแบรนด์โดยใช้ดีไซเนอร์ที่มีเอกลักษณ์ และเตรียมขยายไลน์สินค้าอาร์ติแฟ็คให้หลากหลายมากขึ้น หรือมีสินค้าที่เป็นอุปกรณ์สำนักงานออกมาสู่ตลาด
สำหรับยอดขายรวมปากกาอาร์ติแฟ็คปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 60 ล้านบาท และมาจากการส่งออกกว่า 10 ล้านบาท เติบโต 100% และในปีหน้าคาดว่ายอดขายจะเติบโตมากกว่า 100 ล้านบาท และคาดว่าอีก 3 ปีจากนี้จะมียอดขายรวมทั้งในประเทศและส่งออกประมาณ 200-250 ล้านบาท
ขณะที่ภาพรวมยอดขายของกลุ่มปากกาของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 700 ล้านบาท โดยยอดขายหลักมาจากปากกาควอนตั้ม ประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นแบรนด์ที่บริษัทสร้างเอง และเจาะกลุ่มตลาดกลาง รองลงมาเป็นแบรนด์ ครอส นำเข้ามาจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียม และที่เหลือเป็นแบรนด์ใหม่อาร์ติแฟ็ค
