“ซีทีเอช” เดินหน้าพัฒนาโครงข่ายต่อเนื่อง จับมือเอชพีวางระบบเครือข่ายเมโทรเน็ต พร้อมรองรับคอนเทนต์พรีเมียร์ลีก นำเสนอแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ ต่อยอดช่องเอชดี 500 ช่องใน 3 ปีด้วยงบลงทุน 20,000 ล้านบาท มั่นใจครอบคลุม 10 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ
นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือซีทีเอช เปิดเผยว่า ตามแผนการดำเนินงานของซีทีเอชที่ต้องการพัฒนาโครงข่ายสู่ความเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิตอลบรอดแบนด์ภายใน 3 ปีนี้ ด้วยแพลตฟอร์มบนดินกับเทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติก ที่ถือเป็นแพลตฟอร์มที่เสถียรที่สุด ภายใต้งบลงทุนรวมกว่า 20,000 ล้านบาทสำหรับ 3 ปีนี้
ล่าสุดได้ร่วมกับบริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด ในการติดตั้งระบบเครือข่ายเมโทรเน็ตที่เกิดจากการต่อยอดจากสถาปัตยกรรม HP FlexNetwork ที่ผนวกรวมระบบเครือข่ายทั่วศูนย์ข้อมูลของผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้ระบบบริหารจัดการเครือข่ายเดี่ยวที่จะช่วยให้มีแบนด์วิดท์สูงถึง 10 กิกะไบต์ต่อวินาที ที่จะเพียงพอสำหรับการรองรับช่องรายการได้สูงกว่า 500 ช่อง คาดว่าจะติดตั้งเสร็จภายในปีนี้ พร้อมใช้จริงได้ตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป
นายกฤษณันกล่าวต่อว่า การติดตั้งระบบเครือข่ายเมโทรเน็ต ส่วนหนึ่งจะช่วยให้การนำเสนอคอนเทนต์ฟุตบอลอังกฤษพรีเมียร์ลีกที่ได้มาด้วยบริการที่ดีและหลากหลายมากที่สุด และดีกว่าในปัจจุบันที่ให้บริการอยู่ โดยเฉพาะการให้บริการในรูปแบบของทูเวย์คอมมูนิเคชัน หรือแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ ขณะที่กำลังมีการถ่ายทอดสดอยู่ในขณะนั้นได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น การสื่อสารระหว่างผู้ชมกับนักข่าว หรือผู้ที่อยู่ติดขอบสนาม ณ เวลานั้นได้แบบเรียลไทม์ เป็นต้น ถือเป็นการให้บริการพื้นฐานสำหรับการวางระบบโครงข่ายครั้งนี้ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับคอนเทนต์พรีเมียร์ลีกครั้งนี้ เบื้องต้นกำลังอยู่ในช่วงของการวางแผนงานอยู่ว่า จะสามารถให้บริการในรูปแบบใดได้บ้าง และจะมีกี่แพกเกจ ทั้งนี้ มั่นใจว่าคนไทยจะสามารถรับชมได้ทั้ง 380 แมตช์ผ่านทางแพลตฟอร์มของซีทีเอช ส่วนทางด้านราคาค่าสมาชิกในการรับชมนั้นเป็นไปตามที่ทางนายวิชัย ทองแตง ผู้บริหารสูงสุดได้เคยกล่าวไว้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 300-400 บาทต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการวางโครงข่ายครั้งนี้ มั่นใจจะมีฐานสมาชิกเพิ่มเป็น 7-10 ล้านครัวเรือนได้ภายใน 3 ปี โดยในต้นปีหน้าเชื่อว่าจะทำได้ถึง 4-5 ล้านครัวเรือนแน่ จากปัจจุบันมีฐานสมาชิกราว 3-3.5 ล้านครัวเรือน เป็น กทม. 1 ล้านกว่าครัวเรือน และอีก 2 ล้านครัวเรือนเป็นต่างจังหวัด โดยทางบริษัทจะเริ่มเปิดให้บริการแพลตฟอร์มผ่านไฟเบอร์ออปติกตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป ด้วยจำนวนช่องรายการกว่า 120 ช่อง (ไม่รวมพรีเมียร์ลีก) โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นช่องเอชดีราว 20-30 ช่อง และขยายสู่ 500 ช่องภายใน 3 ปี ซึ่งถึงเวลานั้นจะเป็นช่องเอชดีทั้งหมดเพื่อเป็นบริการในระดับพรีเมียม
ขณะเดียวกัน พอถึงช่วงปลายปี 2556 โครงข่ายดังกล่าวจะสามารถให้บริการในรูปแบบทริปเปิลเพย์ ประกอบด้วย เคเบิลทีวี อินเทอร์เน็ต และ VoIP และในต้นปี 2557 จะก้าวสู่การให้บริการแบบควอสเพย์ ที่จะเพิ่มบริการโมบิลิตีเข้ามาอีก 1 บริการ