“สก๊อต” รุกเฟิสต์จ็อบเบอร์ รุกเออีซีนำร่องส่งออกลาว

สก๊อตรุกหนักโค้งสุดท้ายโกยยอดขายช่วงไฮซีซัน ลุยจัดกระเช้าของขวัญชูราคา 400-2,000 บาท อัด 30 ล้านบาท อาศัยช่วงหน้าขายสร้างโพซิชันนิ่งสก๊อต 100 เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา คว้าอนันดา เบอร์มิ่งแฮม ขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์ หวังขยายวัยทำงาน ลั่นเดือน ธ.ค.สยายปีกส่งออกลาว ปูพรมเออีซีประเทศแรก สิ้นปีโต 40% กวาด 3,400 ล้านบาท

นายสมพล ชวาลเวชกุล ผู้จัดการฝ่ายพัฒนากลยุทธ์ บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซุปไก่สกัดสก๊อต เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซุปไก่สกัด รังนก ผลไม้สกัด ในช่วงไตรมาสสี่ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันหรือฤดูกาลขายของสินค้า ปีนี้จะมีความคึกคักมากกว่าปีที่ผ่านมาเนื่องจากไม่มีปัจจัยน้ำท่วม โดยเฉพาะยอดขายสินค้าที่จัดเป็นกระเช้าของขวัญปีใหม่จะขายดีเป็นพิเศษเนื่องจากลูกค้าซื้อเพื่อไปมอบในเทศกาลปีใหม่ ส่งผลให้ยอดขายในช่วงไตรมาสสี่มีสัดส่วน 40% เมื่อเทียบกับไตรมาสอื่นๆ

สำหรับแผนการตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทได้จัดชุดกระเช้าของขวัญ มีราคาเริ่มตั้งแต่ 400-2,000 บาท เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 15 พ.ย.นี้ คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี พร้อมกันนี้ทุ่มงบ 30 ล้านบาทในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีจากงบทั้งปี 130 ล้านบาท รุกทำตลาดซุปไก่สกัดสก๊อต 100 เพื่อสร้างโพซิชันนิ่งสินค้าให้ชัดเจน
เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยเริ่มต้นทำงานสร้างความแตกต่างจากสินค้าแบรนด์ซุปไก่สกัด เจาะกลุ่มเป้าหมายนักเรียน นักศึกษา ส่วนกลุ่มเป้าหมายรองเจาะกลุ่มนักศึกษา

ทั้งนี้เพื่อการสร้างภาพลักษณ์และให้เกิดการจดจำโดยเร็วและมากที่สุด ล่าสุดเปิดตัวภาพยนตร์ชุด “บทบาทชีวิต” และเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ “อนันดา เอเวอริ่งแฮม” นับว่าเป็นการใช้พรีเซ็นเตอร์ครั้งแรกเนื่องจากเป็นไอดอลสำหรับคนทำงานรุ่นใหม่ นอกจากนี้บริษัทใช้การดำเนินการตลาดอย่างครบวงจรทั้งอะโบฟเดอะไลน์ และบีโลว์เดอะไลน์ โดยตั้งเป้ายอดขาย 2 เดือนสุดท้าย 150 ล้านบาท และรายได้สก๊อต 100 ราว 625 ล้านบาท หรือสามารถรักษาส่วนแบ่ง 10% เท่ากับปีที่ผ่านมา ส่วนแบรนด์ซุปไก่สกัดมีส่วนแบ่ง 90%

นายสมพลกล่าวว่า แผนการทำตลาดอาเซียนเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในเดือนหน้านี้บริษัทจะส่งออกสินค้า 4 กลุ่ม ได้แก่ สก๊อตซุปไก่สกัด รังนก เพียวเร่ และคอลลาเจน บุกประเทศลาว ภายใต้การใช้ดิสทริบิวเตอร์กระจายสินค้าให้ ปัจจัยที่เลือกขยายตลาดในลาวเนื่องจากพฤติกรรมของคนลาวดื่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอยู่แล้ว รวมทั้งดูโทรทัศน์ในประเทศไทย ดังนั้นการสื่อสารต่างๆ จึงทำได้ไม่ยากมากนัก อย่างไรก็ตาม การทำตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในอาเซียนส่วนสำคัญคือ การสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์

ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์ซุปไก่สกัดเติบโต 25% หรือมีมูลค่า 6,300 ล้านบาท โดย 9 เดือนที่ผ่านมาโต 20% ตลาดมีมูลค่า 5,200 ล้านบาท สำหรับผลประกอบการทั้งปีบริษัทตั้งเป้า 3,400 ล้านบาท หรือเติบโต 40% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโต 20% ปัจจัยที่ทำให้บริษัทมียอดขายเติบโตมาจากปีที่ผ่านมาน้ำท่วม รวมทั้งแผนการตลาดที่รุกหนักในช่วงไตรมาสสี่ แบ่งเป็นรายได้รังนก 55% โดยสก๊อตมีส่วนแบ่ง 50% จากมูลค่า 3,800 ล้านบาท ส่วนรายได้ผลไม้สกัด 20% จากตลาดผลไม้สกัดมูลค่า 2,100 ล้านบาท โต 30% มีส่วนแบ่ง 30%