“พงษ์ศักดิ์” เปิดไอเดียกระฉูด เล็งทำบัตรเครดิตอุ้มคนใช้แอลพีจีที่มีฐานะยากจนจริงๆ สั่งพลังงาน-ปตท.ศึกษาด่วนก่อนเดินหน้าปรับราคาทั้งระบบ เผยแนวคิดเบื้องต้นยึดผู้มีรายได้ต่ำตามบิลค่าไฟฟรี ลั่นดูแลหาบเร่ แผงลอย แต่ร้านอาหารหรูต้องไม่ได้ พร้อมให้ ปตท.เร่งทำ CSR ตอบแทนประชาชนให้มากขึ้น
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการเข้าทำงานวันแรกที่กระทรวงพลังงานว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานและ บมจ.ปตท.พิจารณาแนวทางการปรับโครงสร้างราคาแอลพีจีทั้งระบบด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเร่งด่วนถึงผู้มีรายได้น้อยว่ามีจำนวนและปริมาณเท่าใดเพื่อที่จะลดผลกระทบค่าครองชีพเพื่อต้องขึ้นราคาแอลพีจี โดยเบื้องต้นจะทำเป็นบัตรเครดิตพลังงานที่เพิ่มประเภทแอลพีจีเข้ามา
“แนวคิดคือดูจากผู้มีรายได้ต่ำจากกรณีการอุดหนุนค่าไฟฟรีไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนที่มี 4 ล้านครัวเรือนซึ่งหากเราลดการอุดหนุนโดยตรง เช่น กิโลกรัมละ 10 บาทจะใช้เงิน 2,880 ล้านบาท เมื่อรวมทั้งหาบเร่ แผงลอย ครัวเรือนยากจนด้วยก็น่าจะใช้เงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับการอุดหนุนราคาแอลพีจีผ่านกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เกิดขึ้นสะสมจนถึงปีนี้แล้วถึงแสนล้านบาท และวิธีนี้จะยังทำให้สามารถลดการเก็บเงินจากผู้ใช้เบนซินได้อีกเพราะการเก็บที่มากส่วนหนึ่งก็เอาไปอุ้มแอลพีจี” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
สำหรับการทำบัตรเครดิตจะต้องไปจดทะเบียนต่อกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงมหาดไทย แต่เมื่อไปซื้อแอลพีจีจะจ่ายราคาเต็มไปก่อน หลังจากนั้นกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะจ่ายเงินส่งคืนตามการอุดหนุนให้ผ่านบัตรเครดิต วิธีนี้จะลดการฉ้อโกงได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าขณะนี้โรงแรม 5 ดาวที่จำหน่ายอาหารราคาแพงก็เห็นว่าไม่ควรจะอุดหนุนซึ่งทั้งหมดจะต้องเร่งสรุปก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินการปรับขึ้นราคา
นอกจากนี้ ยังมอบให้ บมจ.ปตท.ไปจัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งจากผลกำไรที่มากมายมาทำเรื่องกิจกรรมเพื่อสังคม หรือ CSR ให้มากขึ้น โดยให้เงินวิจัยแก่สถาบันการศึกษา ครู อาจารย์ หรืออื่นๆ ให้วิจัยและพัฒนาสินค้า 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP และคัดสินค้ามาขายในปั๊ม ปตท.ในแต่ละจังหวัดโดยไม่ให้ซ้ำกันเพื่อกระตุ้นท่องเที่ยว
สำหรับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มอบให้ไปพิจารณาแนวทางการให้ความรู้ประชาชนให้มากขึ้นที่จำเป็นต้องกระจายความเสี่ยงเชื้อเพลิงที่หากใช้ก๊าซฯ มากจะกระทบต่อค่าไฟ รวมถึงการมุ่งไปพลังงานทดแทนมากไปก็กระทบเช่นกันเพราะรัฐต้องจ่ายค่าอุดหนุนไฟฟ้า หรือ ADDER สูงโดยเฉพาะจากแสงอาทิตย์ ดังนั้นควรมองในเรื่องถ่านหินเพิ่มเพราะมีเทคโนโลยีสะอาด
