เซ็นทรัลรีเทล” สร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยการซื้ออาคารเก่าแก่ในย่านชอปปิ้งระดับโลก เพื่อเปิด “ลา รีนาเชนเต” ห้างสรรพสินค้าอันดับหนึ่งของอิตาลีที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโรม เมืองท่องเที่ยวที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของอิตาลี พร้อมเปิดทำการกลางปี พ.ศ. 2558
หลังจากที่เซ็นทรัลรีเทล ผู้นำธุรกิจค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าของไทย ได้เข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ ลา รีนาเชนเต ห้างสรรพสินค้าสุดหรูอันดับหนึ่งของประเทศอิตาลีเมื่อปีที่ผ่านมา บริษัทฯมี ความมุ่งมั่นที่จะสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดยุโรปและเอเชีย ทั้งยังตั้งเป้าการขยายฐานธุรกิจของลา รีนาเชนเต ในอิตาลีอีกด้วย
นายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทฯ ได้ซื้ออาคาร 8 ชั้นขนาดใหญ่ พื้นที่รวมกว่า 17,000 ตารางเมตร บนถนน Via del Tritone ในย่านบันไดสเปน ย่านชอปปิ้งชั้นนำของโลกใจกลางกรุงโรม เพื่อเตรียมเปิดห้างสรรพสินค้า “ลา รีนาเชนเต” สาขาใหม่ โดยใช้เงินลงทุนกว่า 200 ล้านยูโร
อาคารดังกล่าวตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม ประเทศอิตาลี ที่มุมถนน Via del Tritone ตัดกับ Via dei Due Marcelli ซึ่งอยู่ระหว่างบันไดสเปน กับน้ำพุเทรวี สถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของกรุงโรม โดยพื้นที่ในย่านนี้เต็มไปด้วยบูติกแฟชั่นชั้นสูงและแบรนด์ดังระดับโลก รวมถึงภัตตาคารสุดหรู และสำนักงานแบรนด์แฟชั่นที่มีชื่อเสียงต่างๆ
กรุงโรมเป็นเมืองหลวงและเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศอิตาลี และเปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์มีชีวิต เป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมที่ผสมผสานประติมากรรมโบราณเข้ากับความทันสมัยอย่างลงตัว เสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์จึงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยียนมากกว่า 11 ล้านคนในปี พ.ศ 2554 ซึ่งถือว่ามากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของยุโรปเลยทีเดียว โครงการที่ Via del Tritone จึงถือเป็นจุดหมายที่มีศักยภาพอย่างมากในการเปิดลา รีนาเชนเต สาขาใหม่ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รวมถึงกลุ่มลูกค้าแฟชั่นนิสตาชั้นนำของอิตาลีอีกด้วย
ตัวอาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 18 ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม ซึ่งผู้ออกแบบจะคงเอกลักษณ์ภายนอกของอาคารไว้ตามเดิม และจะปรับปรุงพื้นที่ภายในใหม่ทั้งหมด โดยมีลา รีนาเชนเต แฟลกชิปสโตร์ที่มิลานเป็นต้นแบบ เพื่อจะสร้างเป็นห้างสรรพสินค้าอันทันสมัยและครบวงจรที่สุดในอิตาลี เน้นความหรูหราและปักธงผู้นำแฟชั่น โดยจะเป็นศูนย์รวมของลักชัวรีแฟชั่นแบรนด์จากทั่วโลก ชั้นบนสุดจะเป็นที่ตั้งของร้านอาหารชั้นนำหลากหลายร้านอันเป็นสัญลักษณ์อันโด่งดังของลา รีนาเชนเต และที่ชั้นใต้ดินจะเปิดเป็น “Design Supermarket” แผนกสินค้าดีไซน์เทรนด์ล่าสุด อันเป็นจุดดึงดูดที่สำคัญของลา รีนาเชนเต อีกจุดหนึ่งนอกเหนือจากการบริการด้านสินค้าแฟชั่นชาย-หญิง
นายทศกล่าวทิ้งท้ายว่า เรามีความตั้งใจที่จะสร้างลา รีนาเชนเตสาขา Via del Tritone ให้เป็นห้างสรรพสินค้าที่ครบครันด้วยสินค้าและบริการที่จะตอบสนองทุกความต้องการ พร้อมทั้งสร้างความประทับใจอย่างสูงสุดให้แก่ลูกค้าของเราทุกคน การขยายสาขาในครั้งนี้ก็ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะยกระดับลา รีนาเชนเต และเซ็นทรัลรีเทล ขึ้นสู่เวทีโลก
ห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต สาขา Via del Tritone มีกำหนดเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งจะเป็นสาขาที่ 12 ในประเทศอิตาลี และจะเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโรม
จากรายงานผลการวิเคราะห์ของนักลงทุนในกลุ่มประเทศยุโรปพบว่า ประเทศที่มีศักยภาพ มีการเติบโตและน่าจับมอง พบว่า “ประเทศไทย” ติดอันดับหนึ่งของโลกที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ และกำลังซื้อผู้บริโภค อันเนื่องมาจากการขยายตัวของกลุ่มชนชั้นกลางที่มีรายได้เพิ่มมากขึ้น กระตุ้นภาคค้าปลีกเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มขยายตัวสูงในช่วง 3-10 ปีข้างหน้า ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาชาวยุโรปตอนนี้กำลังก้าวสู่ประเทศที่เจริญแล้ว
ขณะที่ผลกาสำรวจข้อมูลนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางไปท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยในกลุ่มประเทศยุโรปในปี 2555 พบว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวไทยซื้อสินค้าและยื่นขอคืนภาษีจำนวนมากติดอันดับ 6 ของโลก โดยอันดับ 1 เป็นของจีน อันดับที่ 2 รัสเซีย อันดับที่ 3 ญี่ปุ่น อันดับที่ 4 อเมริกา และอันดับที่ 5 อินโดนีเซีย
“ลา รีนาเชนเต” เป็นห้างสรรพสินค้าสุดหรูชื่อดังอันดับ 1 ของอิตาลี และเป็นห้างที่ดีที่สุดห้างหนึ่งในทวีปยุโรป เปิดกิจการมานานกว่า 150 ปี มีสาขารวมทั้งสิ้น 11 สาขา ตั้งอยู่ตามเมืองสำคัญใหญ่ๆ ทั่วประเทศอิตาลี ได้แก่ มิลาน (Milan) มอนซา (Monza) แพดัว (Padova) ตูริน (Torino) เจนัว (Genova) ฟลอเรนซ์ (Firenze) กาลยารี (Caglari) ปาแลร์โม (Palermo) คาตาเนีย (Catania) และโรม (Rome) 2 สาขา