“แม็คยีนส์” เปิดเกมรุก จ่อตั้งโรงงานผลิตใน ตปท. เล็งอินโดนีเซียกับเขมร หนีต้นทุนค่าแรงไทยแพงหูฉี่ พร้อมรับเออีซี ปลื้มคนพม่า-ลาวคลั่งไคล้แม็คยีนส์จนยอดขายพุ่ง ด้านตลาดเมืองไทยใส่เกียร์เร่งขยายสาขาเต็มที่ เพิ่มเป็น 50 สาขาต่อปี
นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แม็ค กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแม็คยีนส์ เปิดเผยว่า จากผลกระทบของการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาททำให้ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น อีกทั้งจะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 ทำให้บริษัทต้องปรับตัวเพื่อรองรับการแข่งขัน โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนการผลิต
“ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่วันนี้ เพราะถ้าไม่เตรียมวันนี้ เมื่อคู่แข่งเข้ามาในวันหน้าเราอาจจะไม่พร้อมแข่งขัน”
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าไปตั้งโรงงานในประเทศ อินโดนีเซียหรือเขมรในระยะอีก 5 ปีข้างหน้านี้ เริ่มจากการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ในรูปแบบการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนในประเทศต่างๆ และเมื่อมีความต้องการในระดับหนึ่งแล้วบริษัทจึงจะพิจารณาตั้งโรงงาน
โดยประเทศอินโดนีเซียเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจเพราะมีจำนวนประชากรมาก ยังไม่มีคู่แข่งที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงมากอย่างชัดเจน ส่วนใหญ่ครองส่วนแบ่งตลาดคนละเล็กน้อยเท่านั้น ประกอบกับค่าแรงงานที่อินโดนีเซียถูกกว่าเมืองไทย ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับคู่ค้าในอินโดนีเซีย คาดว่าจะสรุปและแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในอินโดนีเซียได้ในปีหน้า
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เข้าไปเปิดตลาดแม็คยีนส์ในประเทศพม่าไม่กี่เดือนที่ผ่านมาผ่านตัวแทนจำหน่าย ปัจจุบันเปิดร้านแม็คยีนส์ได้ 7 แห่งในพม่าที่เมืองย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และเนย์ปิดอว์ เป็นต้น ตลาดตอบรับค่อนข้างดี เปิดตัววันแรกมียอดขาย 1 แสนบาท มากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้เกือบครึ่งหนึ่งทั้งที่ราคาไม่ได้ต่างจากเมืองไทยมากนัก ขณะที่ลูกค้าประเทศลาวก็ให้ความสนใจเช่นกัน โดยผ่านตะเข็บชายแดนไทยในการเปิดร้านแม็คยีนส์ที่มุกดาหารในเดือนแรกบริษัททำยอดขายได้ถึง 2 ล้านบาท จากปกติเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 5-8 แสนบาทเท่านั้น
สำหรับแผนธุรกิจในประเทศไทยจะดำเนินงานในเชิงรุกมากขึ้นในปีหน้า เนื่องจากมีความพร้อมของทีมงาน และการขยายตัวอย่างรวดเร็วของศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และดิสเคานต์สโตร์แห่งใหม่ๆ ในต่างจังหวัด โดยวางเป้าหมายจากนี้ไปบริษัทจะเปิดสาขาใหม่แบบเชิงรุกมากขึ้นเป็นปีละ 40-50 แห่ง จากเดิมเฉลี่ยเปิดสาขาใหม่ปีละประมาณ 20 25 แห่งต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้มีร้านแม็คยีนส์ทั่วประเทศประมาณ 104 แห่ง จากที่เริ่มเปิดร้านมากขึ้นตั้งแต่ปี 2551
โดยตั้งงบลงทุนปีหน้าไว้ที่ประมาณ 100 ล้านบาท แบ่งเป็นการเปิดสาขาใหม่ 40 แห่ง ส่งผลให้ปีหน้าจะมีร้านเพิ่มเป็น 150-155 แห่ง ส่วนงบประมาณอีกจำนวนหนึ่งจะนำไปใช้ในการปรับโฉมสาขาของแม็คยีนส์ในบางทำเลให้มีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลา โดยการเปิดสาขาใหม่จะใช้เงินลงทุนประมาณ 2-3 ล้านบาทต่อแห่ง คาดว่าจะมีการจ้างงานใหม่อีกประมาณ 100 อัตราจากการเปิดสาขาใหม่อีก 100 แห่งใน 2 ปีหน้า
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดรายได้ปีนี้ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เติบโต 25-28% จากปีที่แล้ว และเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 30% และคาดว่ายอดรายได้จะเพิ่มเป็น 6,000 ล้านบาทในปี 2016
“ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้แม็คยีนส์เติบโตมากถึง 30% ถึงแม้ว่าจะมีแบรนด์แฟชั่นใหม่ๆ จากต่างประเทศเข้ามาทำตลาด หรือแบรนด์จากผู้ผลิตในประเทศออกสู่ตลาดเป็นระยะๆ แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของแม็คยีนส์แต่อย่างใด” นางสาวสุณีกล่าวในที่สุด