“แอลเอ” ดันไทยฮับจักรยาน หวนอีไบค์หลังจีนถอนสมอ

“แอลเอไบซิเคิ้ล” รีลอนช์ตลาดอีไบค์ใหม่ หลังสินค้าจากจีนถอนสมอเมืองไทย ปรับราคาขึ้น 20% พร้อมดันไทยเป็นฮับตลาดจักรยาน โชว์ความพร้อมของแอลเอกรุ๊ปรุกทุกด้าน ล่าสุดผุดร้านซีซีชอป แยกขาดจากแอลเอชอป

นางสาวจันทนา ติยะวัชรพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท คัลเจอร์ ไซคลิสท์ จำกัด บริษัทในเครือแอลเอไบซิเคิ้ลกรุ๊ป เปิดเผยว่า กลุ่มแอลเอได้ทำการรีลอนช์กลุ่มจักรยานอีไบค์ใหม่ในปีนี้ หลังจากที่ทำตลาดมานาน 3 ปีแล้วด้วยการตั้งบริษัทใหม่ชื่อว่า บริษัท แอล เอ อี ไรด์ จำกัด เพื่อรุกตลาดใหม่อีกครั้ง รองรับแนวโน้มตลาดจักรยานอีไบค์ที่เติบโตขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่ตลาดรวมอีไบค์ถูกสินค้าจากจีนที่ใช้สงครามราคาเข้ามาตีตลาดมาก แต่ปัจจุบันเริ่มหายไปจากตลาดแล้วเพราะสินค้าไม่ค่อยมีคุณภาพ และไม่มีการทำบริการหลังการขาย ทำให้จักรยานอีไบค์ที่มีแบรนด์เริ่มเป็นที่ยอมรับแม้ว่าราคาจะสูงกว่าก็ตาม

โดยบริษัทได้ทำการรีลอนช์ใหม่ และได้ปรับราคาเพิ่ม 20% เพราะใช้ลิเทียมมาทำการผลิตแบตเตอรี่ซึ่งมีราคาสูงกว่าเดิมที่ใช้ตะกั่ว ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นมากถึง 20% และหลังจากนี้จะทำการตลาดหนักขึ้น โดยแอลเอมีจักรยานอีไบค์ 4 รุ่น ทำตลาดราคาตั้งแต่ 21,000-26,000 บาท

นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฮับหรือเป็นศูนย์กลางของตลาดจักรยานในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ภายในปี 2558 เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมที่สุดเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านด้วยกัน แม้ปริมาณคนใช้จักรยานบ้านเรายังน้อยอยู่

ในส่วนของกลุ่มแอลเอไบซิเคิ้ลนั้น ได้มีการสร้างเครือข่ายธุรกิจถึงขณะนี้ครบหมดในทุกส่วนแล้ว ในรูปแบบของการเป็นโพรวายเดอร์ หรือการบริการแบบครบวงจรในธุรกิจจักรยาน ทั้งด้านการผลิต ด้านการตลาด การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ และการทำร้านแบบค้าปลีก รวมทั้งการเป็นศูนย์ให้ความรู้ด้านจักรยาน

ล่าสุดคือการเปิดร้านคัลเจอร์ ไซคลิสท์ ชอป หรือซีซีชอป สาขาแรกที่ซอยหลังสวน พื้นที่ 142 ตารางเมตร ลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งมีแผนที่จะขยายอีก 3-5 สาขาภายใน 2 ปีนี้ ลงทุนมากกว่า 10 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งจะเป็นรูปแบบฟูลสเกลครบวงจร พื้นที่ไม่ต่ำกว่า 600 ตารางเมตร ตั้งเป้าหมายให้ร้านซีซีชอปนี้เป็นเสมือนเอ็กซ์พีเรียนซ์โพรวายเดอร์ ที่นอกจากจะมีสินค้าเกี่ยวกับจักรยานจำหน่ายแล้ว ยังเป็นศูนย์ข้อมูล ศูนย์กิจกรรม ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับจักรยานสำหรับคนรักจักรยานทั้งหลายด้วย

ขณะที่ฐานธุรกิจเดิมคือการผลิต ปัจจุบันบริษัทในเครือมีกำลังการผลิตจักรยานรวม 1.5 ล้านคันต่อปี แต่ปัจจุบันผลิตได้ประมาณ 1.2 ล้านคันต่อปีเท่านั้น ยังมีความสามารถผลิตรองรับเออีซีได้อีก โดยจำหน่ายในไทย 50% และส่งออก 50% นอกจากนั้นยังเป็นผู้นำเข้าจักรยานและอุปกรณ์ต่างๆ จากต่างประเทศแบรนด์เนมดังๆ มากกว่า 30 แบรนด์ ส่วนธุรกิจค้าปลีกก็มีร้านแอลเอชอปประมาณ 72 สาขาที่ดำเนินการโดยดีลเลอร์ในต่างจังหวัด และยังมีเครือข่ายดีลเลอร์อีกไม่ต่ำกว่า250 รายทั่วประเทศ และปัจจุบันแอลเอฯ ได้ทำตลาดต่างประเทศบ้างแล้ว โดยเฉพาะการแต่งตั้งดีลเลอร์ทำตลาดที่เวียดนาม พม่า ลาว เขมร

“ตลาดจักรยานในเมืองไทยเริ่มมีอัตราการเติบโตที่ดีในช่วง 2-3ปีนี้ เฉลี่ยแล้วอัตราครอบครองจักรยานของคนไทย 1 ครอบครัวจะมี 1 คันในอดีต แต่ปัจจุบันเพิ่มเป็น 3 คันต่อครอบครัวแล้ว โดยมีความต้องการที่ประมาณ 1.3 ล้านคันต่อปี มี 4 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มเด็ก สัดส่วนตลาด 30% กลุ่มที่เป็นพาหนะ กลุ่มกีฬา และกลุ่มเทรนดี้”