นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่กังวลน้ำท่วม ไฮซีซันปีนี้จองเดินทางมาไทยกันคึกคัก ส่วนตลาดคนไทยช่วงนี้กังวลจนหยุดเที่ยว กลัวน้องน้ำมาเยือน โรงแรมบ่นห้องพักโอเวอร์ซัปพลาย
นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาช่วงไฮซีซันปีนี้เริ่มเห็นความคึกคัก โดยดูจากยอดจองการเดินทาง จึงค่อนข้างมั่นใจว่ายอดรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดปีนี้น่าจะอยู่ที่ 21.5 ล้านคน สูงกว่าเป้าหมายของ ททท.ที่วางไว้ว่าจะได้ 20.5 ล้านคน
เบื้องต้นยังพบว่านักท่องเที่ยวไม่มีความกังวลปัญหาน้ำท่วม และส่วนที่เดินทางลงภูเก็ตยังเริ่มมีแนวโน้มกระจายโปรแกรมการเดินทางไปเที่ยวยังจังหวัดใกล้เคียง เช่น กระบี่ พังงา ตรัง นครศรีธรรมราช ช่วยกระจายรายได้ลงสู่พื้นที่
ทั้งนี้ หากแยกรายตลาด พบว่าไฮซีซันปีนี้นักท่องเที่ยวจากยุโรปเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ยกเว้นจากเยอรมนี ส่วนตลาดสแกนดิเนเวียมีการวางแผนการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยกระจายไปยังหวัดใกล้เคียง ขณะเดียวกัน ช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ซึ่งเป็นเทศกาลวันชาติของจีน พบว่านักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าภูเก็ตจำนวนมาก รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง ส่วนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นกลุ่มอินเซนทีฟ หรือท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ก็เดินทางมาในช่วงเวลาดังกล่าวถึง 4,000 คน
อย่างไรก็ตาม มีความมั่นใจว่าหากไม่มีสถานการณ์น้ำท่วม หรือฝนตกหนักในภาคใต้ เช่นภูเก็ต และพื้นที่โดยรอบ เชื่อว่าไฮซีซันปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมากันคึกคัก ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง มาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อมาชอปปิ้ง
นางปิยะมานกล่าวถึงนักท่องเที่ยวตลาดคนไทย ช่วงนี้ยอมรับว่าชะลอตัว เหตุเพราะ กังวลสถานการณ์น้ำท่วมจึงไม่ต้องการทิ้งบ้านไปเที่ยว ซึ่ง สทท.เคยเสนอภาครัฐให้จัดกิจกรรมจูงใจ เช่น ลดหย่อนภาษีให้แก่นักท่องเที่ยวคนไทย แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ กลับมา
นายเกษียร วัฒนเชาวน์พิสุทธิ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน กล่าวว่า ช่วงวันชาติจีนปีนี้ทำให้ตลอดเดือนตุลาคมมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) จากจีนเข้ามาไทยแล้วกว่า 150 ลำ ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 30,000 คน มาอยู่ที่ 150,000-160,000 คน แต่คนจีนช่วงนี้มีแนวโน้มพำนักนานขึ้น เป็น 4-5 คืน จากเดิมพัก 2-3 คืน ใช้จ่ายเพิ่มเป็นกว่า 6,000-8,000 บาทต่อคนต่อวัน จากของเดิม ราว 4,000 บาท
***โรงแรมบ่นห้องพักโอเวอร์ซัปพลาย
นายภูณัช ธนาเหล่าพาณิช นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า ช่วงเดือนตุลาคมปีนี้มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 30-35% โดย 20% เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นตลาดหลัก ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับปีปกติ เป็นเพราะนักท่องเที่ยวยังไม่มั่นใจต่อสถานการณ์น้ำท่วมจึงเฝ้าดูสภาพอากาศ แต่หากผ่านช่วงนี้ไปได้ เชื่อว่าเดือนพฤศจิกายนอัตราเข้าพักจะเพิ่มไปอยู่ที่ 60-70% และเดือนธันวาคมจะเพิ่มไปอยู่ที่ 90%
สำหรับเมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวที่สูงสุด 3 ลำดับแรก คือ ฝรั่งเศส จีน และญี่ปุ่น โดยจีนมีอัตราเติบโตสูงสุด ทำให้ปีนี้คาดว่าสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มเป็น 30% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเชียงใหม่ เพิ่มจากของเดิมที่มีส่วนแบ่งอยู่ 20%
“แม้ตลาดจะเติบโต แต่ผู้ประกอบการยังต้องตรึงราคาขายไว้เท่าเดิม เพราะจำนวนห้องพักที่มีมากกว่า 40,000 ห้องทั่วพื้นที่ และยังมีห้องพักประเภทเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์เข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดอีกกว่า 20% การแข่งขันจึงสูงเป็นสาเหตุหลักที่ยังขึ้นราคาขายไม่ได้ โดยโรงแรม 3 ดาวเฉลี่ยราคาอยู่ที่คืนละ 900-1,000 บาท โรงแรม 4 ดาวราคา 1,500-2,000 บาท และโรงแรม 5 ดาวขาย 5,000 บาท
ขณะที่นายสุชาติ หิรัญกนกกุล นายกทีเอชเอ ภาคใต้ กล่าวว่า อัตราเข้าพักช่วงเดือน ต.ค. ปีนี้ยังไม่คึกคัก เพราะตลาดคนไทยที่จะเดินทางมาจากกรุงเทพฯ และภาคกลางยังกังวลกับภัยธรรมชาติ อาจทำให้แนวโน้มการเดินทางจะเลื่อนไปอยู่ช่วงไตรมาสแรกของปีใหม่ (ม.ค.-ก.พ.) เพราะขณะนี้ภาคใต้โดยเฉพาะภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวเดินทางตลอดปี นอกจากยุโรป ยังมีจีน ออสเตรเลีย อินเดีย ตามลำดับ ที่เดินทางเข้ามาจำนวนมาก
“ช่วง 3 เดือนปีนี้คาดว่าอัตราเข้าพักเฉลี่ยจะอยู่ที่ 75% เพิ่มจากปีก่อน 5% สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะจำนวนห้องพักที่ล้นตลาด โดยมีกว่า 40,000 ห้อง หากรวมเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์จะพุ่งไปถึง 70,000 ห้อง จึงโอเวอร์ซัปพลาย”
นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาช่วงไฮซีซันปีนี้เริ่มเห็นความคึกคัก โดยดูจากยอดจองการเดินทาง จึงค่อนข้างมั่นใจว่ายอดรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดปีนี้น่าจะอยู่ที่ 21.5 ล้านคน สูงกว่าเป้าหมายของ ททท.ที่วางไว้ว่าจะได้ 20.5 ล้านคน
เบื้องต้นยังพบว่านักท่องเที่ยวไม่มีความกังวลปัญหาน้ำท่วม และส่วนที่เดินทางลงภูเก็ตยังเริ่มมีแนวโน้มกระจายโปรแกรมการเดินทางไปเที่ยวยังจังหวัดใกล้เคียง เช่น กระบี่ พังงา ตรัง นครศรีธรรมราช ช่วยกระจายรายได้ลงสู่พื้นที่
ทั้งนี้ หากแยกรายตลาด พบว่าไฮซีซันปีนี้นักท่องเที่ยวจากยุโรปเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ยกเว้นจากเยอรมนี ส่วนตลาดสแกนดิเนเวียมีการวางแผนการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยกระจายไปยังหวัดใกล้เคียง ขณะเดียวกัน ช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ซึ่งเป็นเทศกาลวันชาติของจีน พบว่านักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าภูเก็ตจำนวนมาก รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง ส่วนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นกลุ่มอินเซนทีฟ หรือท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ก็เดินทางมาในช่วงเวลาดังกล่าวถึง 4,000 คน
อย่างไรก็ตาม มีความมั่นใจว่าหากไม่มีสถานการณ์น้ำท่วม หรือฝนตกหนักในภาคใต้ เช่นภูเก็ต และพื้นที่โดยรอบ เชื่อว่าไฮซีซันปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมากันคึกคัก ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง มาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อมาชอปปิ้ง
นางปิยะมานกล่าวถึงนักท่องเที่ยวตลาดคนไทย ช่วงนี้ยอมรับว่าชะลอตัว เหตุเพราะ กังวลสถานการณ์น้ำท่วมจึงไม่ต้องการทิ้งบ้านไปเที่ยว ซึ่ง สทท.เคยเสนอภาครัฐให้จัดกิจกรรมจูงใจ เช่น ลดหย่อนภาษีให้แก่นักท่องเที่ยวคนไทย แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ กลับมา
นายเกษียร วัฒนเชาวน์พิสุทธิ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน กล่าวว่า ช่วงวันชาติจีนปีนี้ทำให้ตลอดเดือนตุลาคมมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) จากจีนเข้ามาไทยแล้วกว่า 150 ลำ ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 30,000 คน มาอยู่ที่ 150,000-160,000 คน แต่คนจีนช่วงนี้มีแนวโน้มพำนักนานขึ้น เป็น 4-5 คืน จากเดิมพัก 2-3 คืน ใช้จ่ายเพิ่มเป็นกว่า 6,000-8,000 บาทต่อคนต่อวัน จากของเดิม ราว 4,000 บาท
***โรงแรมบ่นห้องพักโอเวอร์ซัปพลาย
นายภูณัช ธนาเหล่าพาณิช นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า ช่วงเดือนตุลาคมปีนี้มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 30-35% โดย 20% เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นตลาดหลัก ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับปีปกติ เป็นเพราะนักท่องเที่ยวยังไม่มั่นใจต่อสถานการณ์น้ำท่วมจึงเฝ้าดูสภาพอากาศ แต่หากผ่านช่วงนี้ไปได้ เชื่อว่าเดือนพฤศจิกายนอัตราเข้าพักจะเพิ่มไปอยู่ที่ 60-70% และเดือนธันวาคมจะเพิ่มไปอยู่ที่ 90%
สำหรับเมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวที่สูงสุด 3 ลำดับแรก คือ ฝรั่งเศส จีน และญี่ปุ่น โดยจีนมีอัตราเติบโตสูงสุด ทำให้ปีนี้คาดว่าสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มเป็น 30% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเชียงใหม่ เพิ่มจากของเดิมที่มีส่วนแบ่งอยู่ 20%
“แม้ตลาดจะเติบโต แต่ผู้ประกอบการยังต้องตรึงราคาขายไว้เท่าเดิม เพราะจำนวนห้องพักที่มีมากกว่า 40,000 ห้องทั่วพื้นที่ และยังมีห้องพักประเภทเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์เข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดอีกกว่า 20% การแข่งขันจึงสูงเป็นสาเหตุหลักที่ยังขึ้นราคาขายไม่ได้ โดยโรงแรม 3 ดาวเฉลี่ยราคาอยู่ที่คืนละ 900-1,000 บาท โรงแรม 4 ดาวราคา 1,500-2,000 บาท และโรงแรม 5 ดาวขาย 5,000 บาท
ขณะที่นายสุชาติ หิรัญกนกกุล นายกทีเอชเอ ภาคใต้ กล่าวว่า อัตราเข้าพักช่วงเดือน ต.ค. ปีนี้ยังไม่คึกคัก เพราะตลาดคนไทยที่จะเดินทางมาจากกรุงเทพฯ และภาคกลางยังกังวลกับภัยธรรมชาติ อาจทำให้แนวโน้มการเดินทางจะเลื่อนไปอยู่ช่วงไตรมาสแรกของปีใหม่ (ม.ค.-ก.พ.) เพราะขณะนี้ภาคใต้โดยเฉพาะภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวเดินทางตลอดปี นอกจากยุโรป ยังมีจีน ออสเตรเลีย อินเดีย ตามลำดับ ที่เดินทางเข้ามาจำนวนมาก
“ช่วง 3 เดือนปีนี้คาดว่าอัตราเข้าพักเฉลี่ยจะอยู่ที่ 75% เพิ่มจากปีก่อน 5% สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะจำนวนห้องพักที่ล้นตลาด โดยมีกว่า 40,000 ห้อง หากรวมเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์จะพุ่งไปถึง 70,000 ห้อง จึงโอเวอร์ซัปพลาย”