บลจ.ทหารไทยประเมินปี 2556 ดัชนีหุ้นไทยจะอยู่ที่ 1,450 จุด พร้อมมั่นใจหุ้นไทยไม่หลุดแนวรับที่ 1,200 จุด พร้อมแนะนักลงทุนกองทุนประหยัดภาษีทยอยเก็บหน่วยลงทุนเข้าพอร์ตไม่ต้องรอปลายปี
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า ปัญหาหนี้ของสเปนและกรีซนั้นอยากให้ลองมองย้อนกลับไปเมื่อตอนวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ของไทย ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาหลายปีในการฟื้นฟู ซึ่งรัฐบาลของแต่ละประเทศในกลุ่มยุโรปเองยังไม่สามารถรัดเข็มขัดได้ตามที่ IMF บอกเนื่องจากมีผู้รับสวัสดิการของรัฐเป็นจำนวนมาก เมื่อมีการตัดเงินสวัสดิการออกทำให้เกิดการประท้วง ส่วนความขัดแย้งของประเทศจีนและญี่ปุ่นไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นมากนัก และเชื่อว่าที่สุดแล้วจะเจรจากันได้ ขณะเดียวกัน เมื่อเกิดข้อพิพาทของทั้งสองประเทศนั้น ประเทศไทยก็ได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ทั้งนักท่องเที่ยวจีน และนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นอีกด้วย
สำหรับการปรับตัวของหุ้นไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกับต่างประเทศ โดยหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 24-25% สูงกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% ดังนั้นนักลงทุนที่ลงทุนหุ้นในปีนี้จะได้กำไรที่ดี
อย่างไรก็ตาม ดัชนีปรับตัวขึ้นสูงต่อเนื่องส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรออกมา โดยเฉพาะปัจจุบันนักลงทุนทั่วโลกกลับมากังวลปัญหาของสเปนและกรีซ ทำให้นักลงทุนบางกลุ่มมองว่าตลาดหุ้นขาขึ้นในรอบนี้จบแล้วหรือยัง จึงลดความเสี่ยงลงโดยขายหุ้นออก แต่อีกมุมมองหนึ่งเชื่อว่าจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 ทำให้เม็ดเงินทั่วโลกที่มีอยู่จำนวนมากสุดท้ายจะต้องเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในที่สุด
ทั้งนี้ ปัจจัยลบในต่างประเทศนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในประเทศเท่าใดนัก ซึ่งส่วนใหญ่นักลงทุนไทยจะกังวลกับปัจจัยภายในประเทศเป็นหลัก เช่นปัญหาความไม่มั่นคงทางการเมือง ซึ่งหากคลายความกังวลตรงจุดนี้ไปได้ก็เชื่อว่าความมั่นใจของนักลงทุนไทยก็เพิ่มขึ้่น
“ในส่วนตัวมองว่าหุ้นปรับตัวลงช่วงสั้นๆ อาจปรับตัวลดลงประมาณ 5% หรือการปรับลงหนักๆ จะเกิดขึ้นเมื่อมีแต่แรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่องจนทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เปลี่ยนไป อีกทั้งนักลงทุนในประเทศก็พร้อมที่จะเข้าซื้อหุ้นเมื่อหุ้นปรับตัวลดลง จึงมองว่าดัชนีไม่น่าจะหลุดแนวรับ 1,200 จุดโ ดยปีนี้เราคาดว่าดัชนีจะขึ้นถึงเป้าหมายที่คาดไว้ที่ระดับ 1,300 จุด และปีหน้าคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ประมาณ 15% หรืออยู่ที่ระดับประมาณ 1,450 จุด” นายไพศาลกล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติยังเข้าซื้อหุ้นไทยน้อยมาก ซึ่งการปรับตัวขึ้นของหุ้นไทยส่วนใหญ่มาจากเงินในประเทศและนักลงทุนที่ยังพลาดโอกาสในการเข้าลงทุน โดยเฉพาะเงินลงทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่แนะนำว่าให้ทยอยเข้าซื้อโดยไม่ต้องรอซื้อปลายปี โดยกลุ่มหุ้นที่ยังน่าสนใจคือกลุ่มที่เกี่ยวกับการใช้จ่ายอุปโภคบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก
