ทอท.เรียก BFS เจรจาเคาะสัญญาบริหารคลังสินค้าดอนเมือง ประเมินผลตอบแทนตามจริงเดือนละ 6 แสนบาท ด้านคิงเพาเวอร์และเดอะมอลล์ยัน 1 ต.ค.ร้านค้าพร้อมเปิด “คิงเพาเวอร์” คาดโกยรายได้ปีแรก 5,000 ล้านบาท ยันจ่ายส่วนแบ่งขายในเมืองให้ 15% ตั้งเป้าผู้โดยสาร 14 ล้านคนต่อปี ด้านสายการบินแข่งเดือดเพิ่มเป็น 281 เที่ยวบินต่อวัน
ว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า การเตรียมความพร้อมของท่าอากาศยานดอนเมืองในส่วนของพื้นที่เชิงพาณิชย์นั้น ทั้งบริษัท คิงพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด และเดอะมอลล์กรุ๊ป ยืนยันเปิดให้บริการในวันที่ 1 ตุลาคมได้แน่นอน โดยอยู่ระหว่างตกแต่งร้านค้า ส่วนการประมูลบริหารคลังสินค้า(คาร์โก้) ท่าอากาศยานดอนเมืองนั้น ได้สรุปให้บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพ เวิลด์ไวด์ไฟลท์ เซอร์วิส จำกัด (BFS) เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกหลังจากไม่สามารถเจรจากับกลุ่มกิจการร่วมค้า G.S.E.ผู้เสนอผลตอบแทนสูงสุดได้ เนื่องจากพบว่าข้อเสนอที่ 6 ล้านบาทต่อเดือนสูงเกินจริงเมื่อประเมินปริมาณสินค้าที่คาดว่าจะมีในช่วงแรกที่ประมาณ 3.7 หมื่นตันต่อปี ขณะที่ขีดความสามารถของคลังสินค้ารองรับสินค้าได้สูงสุดที่ 1 ล้านตันต่อปี จึงเรียกรายที่ 2 คือ BFS มาเจรจาผลตอบแทนที่ 6 แสนบาทต่อเดือน หรือผลตอบแทนขั้นต่ำ 7.5% ปรับขึ้นปีละ 10% อายุสัญญา 3 ปี ซึ่งเป็นตัวเลขรายได้ที่สอดคล้องกับปริมาณสินค้า ส่วน BFS ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคลังสินค้าเพราะเป็นผู้บริหารคลังสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย
โดยล่าสุดวันที่ 1 ตุลาคมจะมีเที่ยวบินรวมเพิ่มเป็น 281 เที่ยวบินต่อวัน ผู้โดยสาร 42,465 คนต่อวัน มากกว่าประมาณการเดิมที่ 256 เที่ยวบิน ผู้โดยสาร 30,000 คน เนื่องจากทางแอร์เอเชียได้มีการปรับเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น และจะทำให้ทั้งปีมีผู้โดยสาร 15.49 ล้านคนต่อปี ขณะที่ขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารอยู่ที่ 16.5 ล้านบาท
ส่วนระบบขนส่งสาธารณะ ประกอบด้วย รถแท็กซี่จำนวน 2,200 คัน รถลิมูซีน รถ ขสมก. และรถตู้โดยสารสาย 555 พร้อมกันนี้ได้ตั้งศูนย์สั่งการและประสานงานการให้บริการเต็มรูปแบบ ปฏิบัติการระหว่างวันที่ 28 กันยายน-18 ตุลาคม 2555 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับฟังข้อมูลและแก้ปัญหาได้ทันที ทั้งนี้ จะมีการประเมินผลการให้บริการของดอนเมืองหลังจากนี้ 1 เดือน
นายสมบัติ เดชาพานิชกุล รองประธานกรรมการ กรรมการผู้จัดการ บ.คิงเพาเวอร์ กล่าวว่า บริษัทลงทุนประมาณ 100 ล้านบาทในการปรับปรุงพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสาร 1,112 ตร.ม. โดยมี 7 ร้านค้า แบ่งเป็นขาออก 4 ร้าน 955 ตร.ม. ขาเข้า 2 ร้าน 50 ตร.ม. ซี่งคาดว่าปีแรกจะมีรายได้รวมประมาณ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากร้านที่ดอนเมือง 3,000 ล้านบาท จากร้านคิงเพาเวอร์ในเมือง 1,500 ล้านบาท โดยจ่ายผลตอบแทนให้ ทอท.ที่ 15% ทั้ง 2 ส่วน และเชื่อว่าผลตอบแทนที่เสนอให้ ทอท.มีความเป็นไปได้ เพราะประเมินจากฐานจำนวนผู้โดยสารของแอร์เอเชียที่มีจริง โดยปีแรกคาดว่าผู้โดยสารรวมที่ดอนเมืองจะมีประมาณ 14 ล้านคน ส่วนรูปแบบร้านค้าดิวตี้ฟรีดอนเมืองเป็นไทยประยุกต์เหมือนที่สุวรรณภูมิ
นายณัฐพงศ์ กิจนิจชีวะ ผู้อำนวยการใหญ่ เดอะมอลล์กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทลงทุน 200 ล้านบาทในการปรับปรุงพื้นที่เชิงพาณิชย์ 2,700 ตร.ม. ทั้งฝั่งขาออกและขาเข้า ภายใต้โครงการ “The Mall Skyport” โดยมีพนักงาน 300 คน เชื่อว่าจะส่งผลให้ชุมชนดอนเมืองมีความคึกคักและเศรษฐกิจดีขึ้นมากกว่าเดิมแน่นอน
ว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า การเตรียมความพร้อมของท่าอากาศยานดอนเมืองในส่วนของพื้นที่เชิงพาณิชย์นั้น ทั้งบริษัท คิงพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด และเดอะมอลล์กรุ๊ป ยืนยันเปิดให้บริการในวันที่ 1 ตุลาคมได้แน่นอน โดยอยู่ระหว่างตกแต่งร้านค้า ส่วนการประมูลบริหารคลังสินค้า(คาร์โก้) ท่าอากาศยานดอนเมืองนั้น ได้สรุปให้บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพ เวิลด์ไวด์ไฟลท์ เซอร์วิส จำกัด (BFS) เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกหลังจากไม่สามารถเจรจากับกลุ่มกิจการร่วมค้า G.S.E.ผู้เสนอผลตอบแทนสูงสุดได้ เนื่องจากพบว่าข้อเสนอที่ 6 ล้านบาทต่อเดือนสูงเกินจริงเมื่อประเมินปริมาณสินค้าที่คาดว่าจะมีในช่วงแรกที่ประมาณ 3.7 หมื่นตันต่อปี ขณะที่ขีดความสามารถของคลังสินค้ารองรับสินค้าได้สูงสุดที่ 1 ล้านตันต่อปี จึงเรียกรายที่ 2 คือ BFS มาเจรจาผลตอบแทนที่ 6 แสนบาทต่อเดือน หรือผลตอบแทนขั้นต่ำ 7.5% ปรับขึ้นปีละ 10% อายุสัญญา 3 ปี ซึ่งเป็นตัวเลขรายได้ที่สอดคล้องกับปริมาณสินค้า ส่วน BFS ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคลังสินค้าเพราะเป็นผู้บริหารคลังสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย
โดยล่าสุดวันที่ 1 ตุลาคมจะมีเที่ยวบินรวมเพิ่มเป็น 281 เที่ยวบินต่อวัน ผู้โดยสาร 42,465 คนต่อวัน มากกว่าประมาณการเดิมที่ 256 เที่ยวบิน ผู้โดยสาร 30,000 คน เนื่องจากทางแอร์เอเชียได้มีการปรับเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น และจะทำให้ทั้งปีมีผู้โดยสาร 15.49 ล้านคนต่อปี ขณะที่ขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารอยู่ที่ 16.5 ล้านบาท
ส่วนระบบขนส่งสาธารณะ ประกอบด้วย รถแท็กซี่จำนวน 2,200 คัน รถลิมูซีน รถ ขสมก. และรถตู้โดยสารสาย 555 พร้อมกันนี้ได้ตั้งศูนย์สั่งการและประสานงานการให้บริการเต็มรูปแบบ ปฏิบัติการระหว่างวันที่ 28 กันยายน-18 ตุลาคม 2555 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับฟังข้อมูลและแก้ปัญหาได้ทันที ทั้งนี้ จะมีการประเมินผลการให้บริการของดอนเมืองหลังจากนี้ 1 เดือน
นายสมบัติ เดชาพานิชกุล รองประธานกรรมการ กรรมการผู้จัดการ บ.คิงเพาเวอร์ กล่าวว่า บริษัทลงทุนประมาณ 100 ล้านบาทในการปรับปรุงพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสาร 1,112 ตร.ม. โดยมี 7 ร้านค้า แบ่งเป็นขาออก 4 ร้าน 955 ตร.ม. ขาเข้า 2 ร้าน 50 ตร.ม. ซี่งคาดว่าปีแรกจะมีรายได้รวมประมาณ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากร้านที่ดอนเมือง 3,000 ล้านบาท จากร้านคิงเพาเวอร์ในเมือง 1,500 ล้านบาท โดยจ่ายผลตอบแทนให้ ทอท.ที่ 15% ทั้ง 2 ส่วน และเชื่อว่าผลตอบแทนที่เสนอให้ ทอท.มีความเป็นไปได้ เพราะประเมินจากฐานจำนวนผู้โดยสารของแอร์เอเชียที่มีจริง โดยปีแรกคาดว่าผู้โดยสารรวมที่ดอนเมืองจะมีประมาณ 14 ล้านคน ส่วนรูปแบบร้านค้าดิวตี้ฟรีดอนเมืองเป็นไทยประยุกต์เหมือนที่สุวรรณภูมิ
นายณัฐพงศ์ กิจนิจชีวะ ผู้อำนวยการใหญ่ เดอะมอลล์กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทลงทุน 200 ล้านบาทในการปรับปรุงพื้นที่เชิงพาณิชย์ 2,700 ตร.ม. ทั้งฝั่งขาออกและขาเข้า ภายใต้โครงการ “The Mall Skyport” โดยมีพนักงาน 300 คน เชื่อว่าจะส่งผลให้ชุมชนดอนเมืองมีความคึกคักและเศรษฐกิจดีขึ้นมากกว่าเดิมแน่นอน