“ทอท.” ทดสอบระบบดอนเมืองเต็มรูปแบบราบรื่น พร้อมรับโลว์คอสต์ 1 ต.ค.นี้ เผยมีอีก 2-3 สายการบินสนใจย้ายเพิ่ม เผยดอนเมืองจะเริ่มกำไรหลังจากแบกขาดทุน 465 ล้านบาทต่อปีมาตลอดเหตุโลว์คอสต์ 3 สายย้ายมา ช่วยเพิ่มรายได้ทั้ง PSC ค่าธรรมเนียมขึ้นลง ค่าสัมปทานร้านค้าและดิวตี้ฟรี จัดรถวิ่งเชื่อมสุวรรณภูมิออกทุกครึ่งชั่วโมง ส่วนแท็กซี่ลงทะเบียนเพิ่มเป็น 3,00 คัน ด้านแอร์เอเชียเช็กระบบไม่มีปัญหา ย้ายเครื่องบิน 22 ลำในค่ำวันที่ 30 ก.ย. ส่วน ตม.จีดกำลัง 300 นายบริการ ยันคิวไม่ยาว
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2555 เวลา 10.00 น. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้ทำการทดสอบระบบการให้บริการผู้โดยสารของท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการเต็มรูปแบบในวันที่ 1 ตุลาคม 2555 โดยมีผู้โดยสารสมมติ 135 คนพร้อมกระเป๋าสัมภาระ ใช้บริการทั้งขาออกและขาเข้าระหว่างประเทศโดยเที่ยวบินสมมุติของแอร์เอเชีย คือ FD 3507 เส้นทางกรุงเทพฯ-สิงคโปร์ ออกเดินทางเวลา 13.10 น. โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น แอร์เอเชีย, ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ศุลกากร เป็นต้นร่วมทดสอบกระบวนการให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศตั้งแต่ ระบบเช็คอิน การละเลียงกระเป๋าเข้าใต้ท้องเครื่องบินผ่านเครื่อ งX-Ray ขั้นตอนตรวจหนังสือเดินทาง
นางภาระณี วรรธโนทัย ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ทอท.กล่าวว่า ที่ผ่านมาแต่ละหน่วยงานได้ติดตั้งและทดสอบความพร้อมของระบบแล้ว โดยวันนี้เป็นการนำระบบให้บริการมาทดสอบร่วมกันและจะประชุมเพื่อประเมินผลการทดสอบในเวลา 15.00 น.ของวันเดียวกัน ว่ากระบวนการให้บริการโดยสารตั้งแต่เริ่มจนจบมีจุดใดที่ยังติดขัด ล่าช้า หรือทำให้ผู้โดยสารสับสนหรือไม่ ซึ่งตามมาตรฐานผู้โดยสารขาออกจะต้องใช้เวลาผ่านขั้นตอนต่างๆ เฉลี่ยไม่เกิน 60 นาที ขาเข้าไม่เกิน 45 นาที โดยให้ผู้โดยสารจำลองกรอกความเห็นการใช้บริการแต่ละขั้นตอน เพื่อเร่งแก้ไขปรับปรุงให้เรียบร้อก่อนวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ซึ่งในการทดสอบได้กำหนดการทดสอบในกรณีที่มีผู้โดยสารพิการเดินทางและกรณีฉุกเฉินที่มีผู้ป่วยโดยสารมาด้วย โดยขณะนี้การเตรียมความพร้อมทั้งหมดอยู่ที่ 95% แล้วเหลือการปรัยปรุงพื้นที่ในส่วนของร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) และร้านค้าเชิงพาณิชย์ของกลุ่มเดอะมอลล์ เป็นต้น
โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมจะมี 3 สายการบิน คือ ไทยแอร์เอเชีย แอร์เอเชีย และอินโดนีเซีย แอร์เอเชียมาใช้บนิการเพิ่มและมีสายการบินต้นทุนต่ำอีก 2-3 สายที่แสดงความสนใจย้ายมาโดยได้เข้ามาดูพื้นที่แล้วแต่คาดว่าน่าจะตัดสินใจหลังจากเปิดเต็มรูปแบบก่อน
ที่ดอนเมืองจะมีเที่ยวบินให้บริการรวมประมาณ 256 เที่ยวบินต่อวัน จากปัจจุบันที่นกแอร์ และโอเรียนท์ไทยแอร์ไลน์ ให้บริการอยู่มีประมาณ 100 เที่ยวบินผู้โดยสารประมาณ 10,000-15,000 คนต่อวัน โดยช่วง 06.00-07.00 น. โดยเฉพาะสายการบินแอร์เอเชียคาดว่า จะมีจำนวนผู้โดยสารสูงสุดประมาณ 2,000-3,000 คนต่อชั่วโมงมีเที่ยวบินในประเทศ 16 เที่ยวบินระหว่างประเทศ 5 เที่ยวบิน ขณะที่ผู้โดยสารต่อเครื่องคาดว่าจะมีมากในช่วงเวลา 19.00-22.00 น. ซึ่ง ทอท.ได้ขอความร่วมมือจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดบริการรถรับส่งระหว่างสนามบินดอนเมืองกับสนามบินสุวรรณภูมิ (Shuttle Bus) จำนวน 8 คัน ออกทุกครึ่งชั่วโมง
“วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ดอนเมืองพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบแน่นอน ส่วนข้อติดขัดต่างๆ ที่มีจะแก้ไขให้เรียบร้อยภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่ระบบรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสารนั้นได้ประสานกับ สน.วิภาวดี และสน.ดอนเมือง เพื่อจัดระเบียบให้ดีที่สุด เนื่องจากพื้นที่ทางกายภาพของดอนเมืองค่อนข้างแคบ ส่วนระบบขนส่งในการเข้าออกสนามบินนั้นนอกจากรถโดยสารสาธารณะแล้ว ได้มีรถแท็กซี่มาลงทะเบียนเพิ่มรวมเป็น 3,000 คัน และหลังจากเปิดเต็มรูปแบบแล้ว 1-2 เดือนรวบรวมข้อมูลการให้บริการจริงมาประเมินผลอีกครั้ง ซึ่ง ทอท.ได้ตั้งศูนย์อำนวยการในการดูแลผู้โดยสารด้วย” นางภาระณีกล่าว
นางภาระณีกล่าวว่า ปัจจุบันผลประกอบการของสนามบินดอนเมืองขาดทุนประมาณ 465 ล้านบาทต่อปี แต่เมื่อเปิดให้บริการเต็มรูปแบบจะลดปัญหาขาดทุนและคาดว่าจะกลับมามีกำไรได้แน่นอนเนื่องจากจะมีรายได้เพิ่มจากค่าธรรมเนียมขึ้นลงและจอดอากาศยาน (Landing&Parking) จากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น รายได้จากค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินของผู้โดยสาร (PSC) ในประเทศ 100 บาทต่อคน ระหว่างประเทศ 700 บาทต่อคนรายได้จากพื้นที่เชิงพาณิชย์และดิวตี้ฟรี รายได้จากคลังสินค้า
นายไขแสง วงศ์สวัสดิ์ เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายดูแลภาคพื้นดิน สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการทดสอบระบบในท่าอากาศยานดอนเมืองแล้วไม่มีปัญหา ถึงแม้อุปกรณ์จะเก่าบ้างแต่สามารถให้บริการได้ จึงมั่นใจว่า 1 ตุลาคมนี้พร้อมให้บริการแน่นอน โดยในส่วนของไทยแอร์เอเชียจะเริ่มขนย้ายอุปกรณ์บางส่วนในวันที่ 27 และ 30 กันยายน สำหรับเครื่องบินที่ให้บริการในวันที่ 30 กันยายน จะไปส่งผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทุกเที่ยวบินก่อน หลังจากนั้นก็จะนำเครื่องเปล่าไปจอดที่ท่าอากาศยานดอนเมืองรวม 22 ลำ ปัจจุบันไทยแอร์เอเชียให้บริการรวม 166 เที่ยวบินต่อวัน มีผู้โดยสารประมาณ 24,000 คนต่อวัน โดยมีค่าใช้จ่ายในการย้ายมาให้บริการที่ดอนเมืองประมาณ 80 ล้านบาท
พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร ผู้กำกับด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานดอนเมืองกล่าวว่า ที่ดอนเมืองมีเคาน์เตอร์ ตม.รวม 34 ช่อง ซึ่งได้เตรียมเจ้าหน้าที่จำนวน 300 นาย แบ่งเป็น 4 ผลัดสำหรับให้บริการ มีขีดความสามารถในการตรวจสอบผู้โดยสารช่องละ 300 คนต่อวัน โดยใช้เวลาคนละไม่เกิน 45 วินาที ซึ่งการทดสอบระบบวันนี้ยังไม่พบปัญหา แม้จะเป็นการสมมติเนื่องจากไม่ได้ใช้พาสปอร์ตจริงก็ตาม โดยวันที่ 1 ตุลาคม แอร์เอเชียแจ้งว่าจะมีผู้โดยสารระหว่างประเทศรวม 10,000 คนทั้งขาเข้าและขาออก ทั้งนี้ ตม.ยังไม่มีนโยบายนำระบบ Auto Channal มาใช้ที่ดอนเมืองเนื่องจากยังไม่แออัดแต่จะมีการจัดทำอาเซียนเลนจำนวน 2 ช่อง เพื่อรองรับการเปิด AEC ในอีก 2 ปีข้างหน้า