อ.ส.ค.รับมือเปิดเออีซี พร้อมทุ่มงบพันล้านบาทผุดโรงงานผลิตนมผงปีหน้า จ่อผุดโรงงานผลิตนมยูเอชทีอีก ลุ้นตั้งที่ลำปางหรือไม่ก็เชียงราย
นายนภดล ตันวิเชียร รักษาการผู้อำนวยการ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค หรือนมวัวแดง เปิดเผยว่า ทางองค์การฯ มีแผนรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 หรืออีก 3 ปีจากนี้ ซึ่งคาดว่าเมื่อถึงวลานั้นจะส่งผลต่อตลาดนมโดยรวมที่จะแข่งขันกันมากขึ้นจึงต้องเตรียมความพร้อมไว้
โดยในปีหน้า 2556 ทางองค์การฯ มีแผนที่จะลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาทเพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตนมผงที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบรี ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้างนาน 3 ปี และยังมีแผนที่จะลงทุนสร้างโรงงานผลิตนมยูเอชทีเพิ่มขี้นอีกแห่งซึ่งจะเป็นโรงงานที่ 5 แต่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะสร้างในจังหวัดใดระหว่างเชียงใหม่กับลำปาง
ขณะที่แผนการรุกตลาดต่างประเทศเมื่อเปิดเออีซีจะทำให้ง่ายขึ้น ซึ่งได้ส่งออกสินค้าไปในประเทศลาว กัมพูชา และพม่าแล้ว มีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 300 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะขยายตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยอยู่ระหว่างการศึกษาทำตลาดในประเทศเวียดนาม มาเลเซีย และจีนด้วย ตั้งเป้าหมายรายได้จากการส่งออกขององค์การฯ จะเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาทภายใน 3-5 ปีข้างหน้า
ด้านการทำตลาดในประเทศมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ที่เกี่ยวข้องกับนมเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่นกลุ่มชีส เป็นต้น เพื่อให้องค์การฯ มีสินค้าที่เกี่ยวข้องกับนมครบวงจรมากที่สุด จากปัจจุบันผลิตภัณฑ์ขององค์การฯ มีทั้งนมยูเอชที นมพาสเจอไรซ์ นมเปรี้ยว และโยเกิร์ต เป็นต้น
ปัจจุบันองค์การฯ เป็นผู้ผลิตนมรายใหญ่สุดในไทย โดยใช้น้ำนมดิบผลิตสินค้าประมาณ 500 ตันต่อวัน คาดว่าในอนาคตภายหลังจากที่โรงงานแห่งใหม่ก่อสร้างแล้วจะทำให้องค์การฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้น
นายนภดล ตันวิเชียร รักษาการผู้อำนวยการ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค หรือนมวัวแดง เปิดเผยว่า ทางองค์การฯ มีแผนรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 หรืออีก 3 ปีจากนี้ ซึ่งคาดว่าเมื่อถึงวลานั้นจะส่งผลต่อตลาดนมโดยรวมที่จะแข่งขันกันมากขึ้นจึงต้องเตรียมความพร้อมไว้
โดยในปีหน้า 2556 ทางองค์การฯ มีแผนที่จะลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาทเพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตนมผงที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบรี ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้างนาน 3 ปี และยังมีแผนที่จะลงทุนสร้างโรงงานผลิตนมยูเอชทีเพิ่มขี้นอีกแห่งซึ่งจะเป็นโรงงานที่ 5 แต่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะสร้างในจังหวัดใดระหว่างเชียงใหม่กับลำปาง
ขณะที่แผนการรุกตลาดต่างประเทศเมื่อเปิดเออีซีจะทำให้ง่ายขึ้น ซึ่งได้ส่งออกสินค้าไปในประเทศลาว กัมพูชา และพม่าแล้ว มีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 300 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะขยายตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยอยู่ระหว่างการศึกษาทำตลาดในประเทศเวียดนาม มาเลเซีย และจีนด้วย ตั้งเป้าหมายรายได้จากการส่งออกขององค์การฯ จะเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาทภายใน 3-5 ปีข้างหน้า
ด้านการทำตลาดในประเทศมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ที่เกี่ยวข้องกับนมเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่นกลุ่มชีส เป็นต้น เพื่อให้องค์การฯ มีสินค้าที่เกี่ยวข้องกับนมครบวงจรมากที่สุด จากปัจจุบันผลิตภัณฑ์ขององค์การฯ มีทั้งนมยูเอชที นมพาสเจอไรซ์ นมเปรี้ยว และโยเกิร์ต เป็นต้น
ปัจจุบันองค์การฯ เป็นผู้ผลิตนมรายใหญ่สุดในไทย โดยใช้น้ำนมดิบผลิตสินค้าประมาณ 500 ตันต่อวัน คาดว่าในอนาคตภายหลังจากที่โรงงานแห่งใหม่ก่อสร้างแล้วจะทำให้องค์การฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้น