xs
xsm
sm
md
lg

“โอ.พี.” ทำฉลากรับเออีซี ส่งสินค้าใหม่ถี่ขยายฐาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภัยพร ศรีสุข (ขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โอ.พี.เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด
โอเรียนทอล พริ้นเซส ควักกลยุทธ์เพิ่มความถี่คลอดสินค้าลิมิเต็ด เอดิชั่น ระเบิด 4 คอลเลกชั่นปีนี้  หวังสร้างแบรนด์ขยายฐานลูกค้าใหม่ ล่าสุดเปิดตัว”รีเฟลกชัน ลิมิเต็ด เอดิชั่น”  อัด40ล้านบาทควงดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง สร้างซีรี่ย์ออนไลน์เจาะสาวอายุ 20-35 ปี ซุ่มทำฉลาก ส่วนผสม รับเออีซีปี 58 ไม่หวั่นวิกฤติน้ำท่วมซ้ำ สิ้นปีกวาดรายได้ 3,800 ล้านบาท โต10% 

นางอภัยพร ศรีสุข ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โอ.พี.เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางโอเรียนทอลพริ้นเซส เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้เพิ่มความถี่การออกสินค้าโอเรียนทอล พริ้นเซส รุ่นลิมิเต็ดเอดิชันถึง 4 คอลเลกชัน เนื่องจากเป็นกลยุทธ์การตลาดที่สามารถผลักดันยอดขายได้ถึง 30-50 ล้านบาทต่อครั้ง หรือมีสัดส่วน 5% ของรายได้

จากการทำตลาดต่อเนื่องมา 5 ปีนับตั้งแต่ปี 2550-2555 ซึ่งปกติจะออกสินค้ารุ่นลิมิเต็ดโดยเฉลี่ย 1 คอลเลกชันเท่านั้น และล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าผลิตภัณฑ์ “รีเฟลกชัน ลิมิเต็ด เอดิชัน” ภายใต้คอนเซ็ปต์อำนาจสีสัน สะท้อนมิติแห่งความงาม พร้อมกันนี้ได้ทุ่มงบ 40 ล้านบาทจากงบการตลาดทั้งปี 380 ล้านบาท รุกดิจิตอล มาร์เกตติ้งผ่าน 4 มิติซีรีส์ออนไลน์ ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญต่อการใช้กลยุทธ์ดังกล่าวมากขึ้นภายใต้การใช้งบเพิ่มจาก 3% เป็น 5% เพื่อต้องการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น อายุระหว่าง 20-35 ปี

นอกจากนี้ ดิจิตอลมาร์เกตติ้งสามารถใช้เป็นช่องทางหลักที่เชื่อมโยงแบรนด์สู่ความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย จากการที่พบว่าจำนวนสมาชิกที่ให้ความสนใจสื่อออนไลน์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันมีแฟนเพจของโอเรียนทอล 2.1 แสนราย

สำหรับสินค้ารุ่นลิมิเต็ด เอดิชันครั้งนี้มีด้วยกัน 6 เฉด มีทั้งหมด 19 รายการ ราคาตั้งแต่ 155-305 บาท 

“การเปิดตัวสินค้ารุ่นลิมิเต็ดเพื่อต้องการสร้างภาพลักษณ์ สร้างแบรนด์ และขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และนำมาซึ่งการซื้อสินค้าซ้ำ โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทจะเปิดสินค้ารุ่นลิมิเต็ดเอดิชันอีก 2 รายการเพื่อสร้างสีสันในช่วงปลายปีนี้”

นางอภัยพรกล่าวว่า บริษัทได้เตรียมพร้อมรับมือการเปิดเขตเศรษฐกิจประชาคมอาเซียนในปี 58 โดยเฉพาะการทำฉลากสินค้า ส่วนผสมเพื่อให้ได้มาตรฐานการผลิตที่จะสามารถขยายตลาดอาเซียนได้ แต่ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนที่ชัดเจนสำหรับการทำตลาด

ส่วนตลาดสเปเชียลสโตร์ในปีนี้มูลค่า 6,000 ล้านบาท เติบโต 13% โดยพบว่ามีคู่แข่งจากเกาหลีเข้ามาเปิดธุรกิจเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันบริษัทยังเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 63% จากการมีจำนวนสาขา 304 สาขา โดยปีนี้เปิดเพิ่ม 12 สาขา เปิดแล้ว 7 สาขา เหลืออีก 5 สาขากำลังจะเปิดในช่วงไตรมาสสุดท้าย

สำหรับผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้า 3,800 ล้านบาท หรือเติบโต 10% แต่คาดว่าสิ้นปีนี้รายได้จะเกินเป้าหมายที่วางไว้ และมั่นใจว่าน้ำท่วมปีนี้จะไม่กระทบต่อยอดขาย จากในปีที่ผ่านมาวิกฤตน้ำท่วมแต่ว่ายอดขายของบริษัทเกินเป้าที่ตั้งไว้จาก 3,400 ล้านบาทเป็น 3,600 ล้านบาท โดยผลประกอบการในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานี้ บริษัทมียอดขายโต 10% ตามเป้าหมาย โดยยอดบิลเพิ่มขึ้น 3% เป็น 4 แสนราย และอัตราการซื้อต่อบิลเพิ่มขึ้น 11% จาก 883 บาท เป็น 975 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น