ผวาน้ำท่วมถนน “คมนาคม” สั่งกรมทางหลวงแก้จุดอ่อนถนน 4 สายน้ำท่วมขังซ้ำซาก พร้อมเร่งยกถนนเป็นคันกั้นน้ำแบบชั่วคราวเสร็จใน ต.ค.นี้ หลังประมูลได้ผู้รับเหมาครบ 120 สัญญา รวม 790 กม.
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เร่งแก้ปัญหาถนนที่ถูกน้ำท่วมขัง ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าขณะนี้ถนนของกรมทางหลวง (ทล.) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคมมีจุดอ่อนเนื่องจากมีปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซาก รวม 4 จุด ได้แก่ ถนนวิภาวดีรังสิตขาออกช่วงจากดินแดง-หน้าสโมสรกองทัพบก 2. บริเวณพหลโยธิน 45 ก่อนถึงนวนคร ฝั่งคู่ขนานด้านซ้ายมีน้ำท่วมขังลึก 50 เซนติเมตร ระยะทาง 700-800 เมตร สาเหตุเพราะถูกน้ำทุ่งไหลเข้าท่วมและการระบายน้ำมีปัญหา ซึ่งให้ ทล.ทำแนวกั้นน้ำทุ่งไม่ให้ไหลเข้ามาเพิ่มและเสริมท่อลอดระบายน้ำพร้อมกับใช้ปั๊มดูดน้ำรวมด้วย
3. ลำลูกกาช่วงอนุสรณ์สถาน ให้ติดตั้งปั๊มน้ำ 3 ตัวโดยดูดออกไปยังคลอง 1 และ 4. ถนนติวานนท์ช่วงปากเกร็ด-สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ จุดนี้พบว่าไม่มีท่อระบายน้ำ จึงให้ติดตั้งปั๊มน้ำเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน
สำหรับการยกถนนเพื่อเป็นแนวกั้นน้ำนั้น นายชัชชาติกล่าวว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งกรมชลประทาน กรมโยธาธิการ กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ได้เปิดประมูลแบบ e-auction ได้ผู้รับเหมาครบทั้ง 120 สัญญาแล้ว ระยะทางรวมประมาณ 579 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยจะให้เร่งดำเนินการจุดที่แนวถนนต่ำก่อนเพราะมีความเสี่ยงสูง เช่น บริเวณรังสิตคลอง 13, ถนนติดแม่น้ำท่าจีนตอนล่าง ต้นคลองพระพิมล เป็นต้น โดยพบว่าขอบถนนมีระดับสูงจากคลองเพียง 40-50 เซนติเมตร
“การทำถนนเป็นแนวกั้นน้ำแบบถาวรนั้นจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน แต่ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้จะต้องก่อสร้างเป็นคันดินชั่วคราวที่สามารใช้งานได้ก่อน ซึ่งจากการตรวจสอบและติดตามปริมาณน้ำในขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เร่งแก้ปัญหาถนนที่ถูกน้ำท่วมขัง ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าขณะนี้ถนนของกรมทางหลวง (ทล.) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคมมีจุดอ่อนเนื่องจากมีปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซาก รวม 4 จุด ได้แก่ ถนนวิภาวดีรังสิตขาออกช่วงจากดินแดง-หน้าสโมสรกองทัพบก 2. บริเวณพหลโยธิน 45 ก่อนถึงนวนคร ฝั่งคู่ขนานด้านซ้ายมีน้ำท่วมขังลึก 50 เซนติเมตร ระยะทาง 700-800 เมตร สาเหตุเพราะถูกน้ำทุ่งไหลเข้าท่วมและการระบายน้ำมีปัญหา ซึ่งให้ ทล.ทำแนวกั้นน้ำทุ่งไม่ให้ไหลเข้ามาเพิ่มและเสริมท่อลอดระบายน้ำพร้อมกับใช้ปั๊มดูดน้ำรวมด้วย
3. ลำลูกกาช่วงอนุสรณ์สถาน ให้ติดตั้งปั๊มน้ำ 3 ตัวโดยดูดออกไปยังคลอง 1 และ 4. ถนนติวานนท์ช่วงปากเกร็ด-สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ จุดนี้พบว่าไม่มีท่อระบายน้ำ จึงให้ติดตั้งปั๊มน้ำเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน
สำหรับการยกถนนเพื่อเป็นแนวกั้นน้ำนั้น นายชัชชาติกล่าวว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งกรมชลประทาน กรมโยธาธิการ กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ได้เปิดประมูลแบบ e-auction ได้ผู้รับเหมาครบทั้ง 120 สัญญาแล้ว ระยะทางรวมประมาณ 579 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยจะให้เร่งดำเนินการจุดที่แนวถนนต่ำก่อนเพราะมีความเสี่ยงสูง เช่น บริเวณรังสิตคลอง 13, ถนนติดแม่น้ำท่าจีนตอนล่าง ต้นคลองพระพิมล เป็นต้น โดยพบว่าขอบถนนมีระดับสูงจากคลองเพียง 40-50 เซนติเมตร
“การทำถนนเป็นแนวกั้นน้ำแบบถาวรนั้นจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน แต่ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้จะต้องก่อสร้างเป็นคันดินชั่วคราวที่สามารใช้งานได้ก่อน ซึ่งจากการตรวจสอบและติดตามปริมาณน้ำในขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง” นายชัชชาติกล่าว
