xs
xsm
sm
md
lg

ไทยส้มหล่นจีนพิพาทญี่ปุ่น นักเที่ยวเบนเข็มแห่เข้าไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมืองหนิงเซี่ยเตรียมหนุนนักท่องเที่ยว 3 หมื่นคนมาประเทศไทยปลายปีนี้ เล็งส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน จับไต๋ประชากรเมืองนี้ 30% นับถือศาสนาอิสลาม ดึงองค์การอิสลามแห่งประเทศไทยโชว์สินค้าฮาลาล ล่าสุดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ละเลงงบ 5 ล้านบาทจัดนิทรรศการแสดงผลงาน

ภายหลังกลับจากการติดตามคณะของ นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  ที่เดินทางไปเยือนเมืองหนิงเซี่ย ประเทศจีน  และการเข้าร่วมงาน Global Tourism Economy Forum ครั้งที่ 1  ที่เขตบริหารพิเศษมาเก๊า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า  คณะของนายชุมพลได้มีโอกาสเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน พร้อมมีข้อตกลงร่วมกันว่า ทั้งไทย และเมืองหนิงเซี่ยจะช่วยกันประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้น

ล่าสุดรัฐบาลจีน โดยเมืองหนิงเซี่ยจะสนับสนุนการเดินทางของชาวจีนในเมืองหนิงเซี่ย 30,000 คน ให้เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้  จากเดิมที่มีกำหนดจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น 

ชูมาตรฐานฮาลาลจูงใจ
ในการเดินทางไปครั้งนี้ทางคณะยังนำผลวิจัยและผลงานของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ทำร่วมกับองค์การอิสลามแห่งประเทศไทย  ทั้งเรื่องอาหาร ตลอดจนของอุปโภคบริโภค  ที่ผ่านมาตรฐานฮาลาลไปร่วมจัดแสดง สร้างการรับรู้ถึงความใส่ใจในการผลิตสินค้าฮาลาลของไทย ซึ่งทางนาย Wang Zhengwei ผู้ว่าการเมืองหนิงเซี่ย ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

เมืองหนิงเซี่ยตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน มีจำนวนประชากรกว่า 7 ล้านคน ซึ่ง 30% นับถือศาสนาอิสลาม และโดยรวมของประชากรในเมืองนี้มีฐานะดีเพราะเป็นเมืองที่ร่ำรวยด้านพลังงานและถ่านหิน  ดังนั้น หากไทยสามารถรองรับนักท่องเที่ยวจากเมืองนี้ได้จะถือเป็นนักท่องเที่ยวระดับคุณภาพที่ใช้จ่ายสูง ซึ่งพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเมืองนี้ชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวประเภทหาดทราย ชายทะเล และชอปปิ้ง เดสติเนชันที่เขารู้จัก เช่น เมืองพัทยา 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเข้าร่วมงาน Global Tourism Economy Forum ครั้งที่ 1  ที่เขตบริหารพิเศษมาเก๊า นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้รับเชิญไปปาฐกถาเรื่องกลยุทธ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย  ซึ่งมาเก๊าต้องการจะส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ได้อย่างประเทศไทย เพราะที่ผ่านมาภาพของมาเก๊าจะเป็นเรื่องของกาสิโนเป็นหลัก  โดยนายชุมพลได้แสดงปาฐกถา ใจความสำคัญว่า แม้ประเทศไทยประสบกับภาวะวิกฤตหลายครั้ง แต่ก็พลิกฟื้นได้อย่างรวดเร็วเพราะมีจุดขายสำคัญ คือ เรื่องของคนที่มีใจบริการ อัธยาศัยไมตรีดี มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย และมีความคุ้มค่าเงิน 

ทัวร์ไทยรับอานิสงส์จีน-ญี่ปุ่นพิพาท
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจากจีนและญี่ปุ่นหันมาเที่ยวประเทศไทยและอีกหลายประเทศในอาเซียน เพราะทั้งสองประเทศมีข้อพิพาทกันอยู่จึงไม่เดินทางไปมาระหว่างกัน ซึ่งสัญญาณนี้เริ่มเห็นมาได้ 1 เดือนแล้ว ซึ่งทัวร์จากประเทศจีนที่จะนำนักท่องเที่ยวไปญี่ปุ่นก็เปลี่ยนเดสติเนชันมาประเทศไทยแทน เช่นเดียวกับทัวร์ญี่ปุ่นจากที่วางแผนไปประเทศจีนก็ปรับมาเป็นประเทศไทยแทนเช่นกัน จึงคาดว่านักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศจะเดินทางมาประเทศไทยเพิ่มขึ้นในช่วงนี้

ทางด้านนายเกษียร วัฒนเชาวน์พิสุทธิ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน กล่าวว่า การพิพาทของทั้งสองประเทศทำให้ประเทศที่ได้รับอานิสงส์คือเกาหลีใต้ ส่วนไทยยังเป็นอันดับสอง จึงอยากให้ผู้ประกอบการทัวร์ใช้ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสที่จะยกระดับการทำทัวร์คุณภาพให้ลูกค้าชาวจีนได้เห็น เพื่อให้เกิดความประทับใจและมาซ้ำหรือเชิญชวนคนรู้จักมาเที่ยวประเทศไทย เพราะที่ผ่านมาปัญหาใหญ่ของทัวร์จีนคือขาดคุณภาพ ชาวจีนเกิดความไม่ประทับใจที่จะเดินทางมาไทยอีก หากใช้ช่วงเวลานี้ลบภาพบริการเดิมๆ ออกไปเชื่อว่าจะทำให้ไทยได้นักท่องเที่ยวจากตลาดจีนแบบยั่งยืน

ละเลง 5 ล้านบาทจัดแสดงผลงาน
ทางด้านนายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมจัดนิทรรศการแสดงผลงานในโอกาสครบรอบ 1 ปีของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และในโอกาสครบรอบ 10 ปีการก่อตั้งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ  ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ชื่องาน “มหัศจรรย์งานท่องเที่ยวและกีฬา” ระหว่างวันที่ 21-23 ก.ย. 55 ที่อาคารอเนกประสงค์ สนามกีฬานิมิบุตร โดยนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะแถลงผลงานในวันที่ 21 ก.ย. 55 คาดว่าจะมีประชาชนสนใจร่วมชมงานกว่าวันละ 10,000 คน เพราะอยู่ใจกลางเมือง ใกล้ศูนย์การค้า  โดยภายในงานมีการออกร้าน และจัดบูทแสดงผลงานของหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, การกีฬาแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. ไฮไลต์ของงาน การกีฬาแห่งประเทศไทยได้นำนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่ามาโชว์ตัว

 นอกจากนั้น สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬาจะออกบูทแนะนำเรื่องสุขภาพกับกีฬา  โดยงานทั้งหมดแต่ละหน่วยงานจะใช้งบตัวเองในการจัดแสดง ขณะที่กระทรวงฯ จัดจ้างเพียงออแกไนเซอร์มาประสานการทำงาน เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบราว 5 ล้านบาท 
กำลังโหลดความคิดเห็น