ASTVผู้จัดการรายวัน - แผนปฏิบัติการโครงการผลักดันรายได้ 2 ล้านล้านบาทคืบหน้า 20% อธิบดีกรมการท่องเที่ยวระบุเล็งผุด 4 โครงการแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ขณะที่ ททท.ปั้น 2 กิจกรรม สงกรานต์และลอยกระทง เพิ่มวันเที่ยว
นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาทภายในปี 58 มีความคืบหน้า 20% โดยวางแผนไว้ 6 ด้าน คือ แผนการตลาด, ระบบลอจิสติกส์, แผนการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดใจ, การสร้างความเชื่อมั่น, การปรับปรุงสินค้า/บริการ และแผนการจัดการด้านอำนวยความสะดวก ซึ่งจะนำเสนอต่อ นายนิวัฒน์ธํารง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับทราบในวันที่ 15 ส.ค. 55
หน่วยงานที่รับผิดชอบการตลาดคือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ซึ่งเสนอกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งหมดรวม 28 โครงการ เช่น โครงการยกระดับการรับรู้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวคุณภาพ (ควอลิตีเดสติเนชัน) โครงการเที่ยวเมืองไทย 5 ภาค, โครงการจัดการแข่งขันรถสูตร 1 ไฟฟ้า อีเล็กทริก เอฟโอวัน เป็นต้น
นายสุพล ศรีพันธุ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า กรมฯ จะดูเรื่องการติดตั้งป้ายข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวและป้ายบอกเส้นทางท่องเที่ยวในจุดที่ยังไม่มี โดยเดือน ก.ย.-พ.ย.ศกนี้มอบให้สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ทำการสำรวจพื้นที่ จากนั้นในเดือน ม.ค. 56 จะเริ่มติดตั้ง
“ตอนนี้กำลังศึกษาโครงการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดใจ 4 โครงการ คือ การสร้างเวิลด์คลาสธีมปาร์ก, เนเชอรัลธีมปาร์ก, เมืองภาพยนตร์ (มูฟวีเวิลด์) และแหล่งท่องเที่ยวจำลองวิถีชีวิตในอดีต หรือเมืองย้อนยุค ระยะเวลาการศึกษาตั้งแต่ ต.ค. 55-ส.ค. 56”
นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างการทำแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม 29 พื้นที่ใน 18 จังหวัด โดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดจะไปหารือกับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเพื่อจัดทำโครงการ ก่อนสรุปอีกครั้งในวันที่ 10 ส.ค. 55 และภายใน 3 เดือนจะสรุปผลพร้อมอนุมัติว่าจะพัฒนาโครงการใดบ้าง
นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า แผนงานที่วางไว้เบื้องต้นจะผลักดันกิจกรรมที่มีศักยภาพให้เกิดเป็นงานขนาดใหญ่ มีระยะเวลาจัดงานนานขึ้น พร้อมบรรจุในปฏิทินการทำงานด้านการตลาดให้แก่ทุกสำนักงาน ททท.และภาคเอกชนนำจัดอยู่ในโปรแกรมเสนอขาย เบื้องต้นเห็นชอบผลักดัน 2 กิจกรรมใหญ่ คือ เทศกาลสงกรานต์ และเทศกาลลอยกระทง
งานทั้งหมด ททท.คิดอยู่ภายใต้งบประมาณประจำปีปกติ แต่จะเน้นหาพาร์ตเนอร์ร่วมจัดงานเพิ่มมากขึ้น แต่หากได้งบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐมาสนับสนุนก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ดี ส่วนกิจกรรมใหญ่กระตุ้นช่วงกลางปีได้เขียนแผนเสนอต่อผู้ว่าการ ททท.ไปแล้วหลายโครงการคาดว่าเร็วๆ นี้จะได้ข้อสรุป
นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) กล่าวว่า ได้ตั้งคณะอนุกรรมการดูแลทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ศึกษาผลตอบรับจากพื้นที่ต่างๆ คาดว่า 3-4 วันจะรวบรวมความคิดเห็นได้ข้อมูลได้ แล้วส่งความคิดเห็นกลับไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ส่วนการแยกโครงการออกมาชัดเจนจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดสรรงบประมาณว่างานใดจะใช้งบปกติ หรือจะเสนอของบประมาณใหม่ ซึ่งจะทำให้โอกาสการได้รับงบเป็นไปได้มากขึ้น
นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาทภายในปี 58 มีความคืบหน้า 20% โดยวางแผนไว้ 6 ด้าน คือ แผนการตลาด, ระบบลอจิสติกส์, แผนการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดใจ, การสร้างความเชื่อมั่น, การปรับปรุงสินค้า/บริการ และแผนการจัดการด้านอำนวยความสะดวก ซึ่งจะนำเสนอต่อ นายนิวัฒน์ธํารง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับทราบในวันที่ 15 ส.ค. 55
หน่วยงานที่รับผิดชอบการตลาดคือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ซึ่งเสนอกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งหมดรวม 28 โครงการ เช่น โครงการยกระดับการรับรู้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวคุณภาพ (ควอลิตีเดสติเนชัน) โครงการเที่ยวเมืองไทย 5 ภาค, โครงการจัดการแข่งขันรถสูตร 1 ไฟฟ้า อีเล็กทริก เอฟโอวัน เป็นต้น
นายสุพล ศรีพันธุ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า กรมฯ จะดูเรื่องการติดตั้งป้ายข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวและป้ายบอกเส้นทางท่องเที่ยวในจุดที่ยังไม่มี โดยเดือน ก.ย.-พ.ย.ศกนี้มอบให้สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ทำการสำรวจพื้นที่ จากนั้นในเดือน ม.ค. 56 จะเริ่มติดตั้ง
“ตอนนี้กำลังศึกษาโครงการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดใจ 4 โครงการ คือ การสร้างเวิลด์คลาสธีมปาร์ก, เนเชอรัลธีมปาร์ก, เมืองภาพยนตร์ (มูฟวีเวิลด์) และแหล่งท่องเที่ยวจำลองวิถีชีวิตในอดีต หรือเมืองย้อนยุค ระยะเวลาการศึกษาตั้งแต่ ต.ค. 55-ส.ค. 56”
นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างการทำแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม 29 พื้นที่ใน 18 จังหวัด โดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดจะไปหารือกับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเพื่อจัดทำโครงการ ก่อนสรุปอีกครั้งในวันที่ 10 ส.ค. 55 และภายใน 3 เดือนจะสรุปผลพร้อมอนุมัติว่าจะพัฒนาโครงการใดบ้าง
นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า แผนงานที่วางไว้เบื้องต้นจะผลักดันกิจกรรมที่มีศักยภาพให้เกิดเป็นงานขนาดใหญ่ มีระยะเวลาจัดงานนานขึ้น พร้อมบรรจุในปฏิทินการทำงานด้านการตลาดให้แก่ทุกสำนักงาน ททท.และภาคเอกชนนำจัดอยู่ในโปรแกรมเสนอขาย เบื้องต้นเห็นชอบผลักดัน 2 กิจกรรมใหญ่ คือ เทศกาลสงกรานต์ และเทศกาลลอยกระทง
งานทั้งหมด ททท.คิดอยู่ภายใต้งบประมาณประจำปีปกติ แต่จะเน้นหาพาร์ตเนอร์ร่วมจัดงานเพิ่มมากขึ้น แต่หากได้งบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐมาสนับสนุนก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ดี ส่วนกิจกรรมใหญ่กระตุ้นช่วงกลางปีได้เขียนแผนเสนอต่อผู้ว่าการ ททท.ไปแล้วหลายโครงการคาดว่าเร็วๆ นี้จะได้ข้อสรุป
นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) กล่าวว่า ได้ตั้งคณะอนุกรรมการดูแลทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ศึกษาผลตอบรับจากพื้นที่ต่างๆ คาดว่า 3-4 วันจะรวบรวมความคิดเห็นได้ข้อมูลได้ แล้วส่งความคิดเห็นกลับไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ส่วนการแยกโครงการออกมาชัดเจนจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดสรรงบประมาณว่างานใดจะใช้งบปกติ หรือจะเสนอของบประมาณใหม่ ซึ่งจะทำให้โอกาสการได้รับงบเป็นไปได้มากขึ้น