ไรท์แมนโบ้ยสายสัมพันธ์การเมือง ยันการรับบริหารศูนย์ประชุมเชียงใหม่ไม่คุ้มเพราะทุนสูง แต่ถ้าเปิดประมูลก็จะเข้าร่วม ล่าสุดแตกไลน์จับธุรกิจรับออกแบบและบริหารพิพิธภัณฑ์รองรับเออีซี
นายอุปถัมภ์ นิสิตสุขเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไรท์แมน จำกัด เปิดเผยว่า มีความสนใจเข้าไปประมูลสิทธิเป็นผู้บริหารศูนย์ประชุมนานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะดำเนินการภายใต้บริษัท ไรท์แมน นอร์ท จำกัด ซึ่งเพิ่งก่อตั้งมาได้ 1 ปีเศษ ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เป็นบริษัทลูกของไรท์แมน จำกัด ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ชำระเต็ม ก่อตั้งมาครบ 22 ปีเต็ม
โดยวางเป้าหมายให้ไรท์แมนนอร์ทเป็นบริษัทสำหรับรับงานในภาคเหนือเท่านั้น
ในส่วนของแผนงานบริษัทไรท์แมนมีการปรับโครงสร้างเพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จึงเปิดแผนกรับบริหารและออกแบบพิพิธภัณฑ์แบบครบวงจร ทั้งนี้เพราะปัจจุบันทุกหน่วยงานเริ่มเห็นความสำคัญของพิพิธภัณฑ์ เช่นเดียวกับโลกตะวันตก และญี่ปุ่น ซึ่งจากการเดินทางไปดูงานในประเทศแถบอาเซียน โดยเฉพาะพม่า และลาว ซึ่งมีแนวโน้มจะมีการสร้างพิพิธภัณฑ์ ล่าสุดเตรียมเปิดตัวฝ่ายวิจัยและพัฒนาสร้างเป็นอินเตอร์แอ็กชันสตูดิโอ เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดอีเวนต์
อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าหมายปีนี้มีรายได้รวม 800 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนราว 15% ในที่นี้ 60% เป็นรายได้จากการรับงานของภาครัฐ อีก 40% เป็นรายได้จากการรับงานของภาคเอกชน มั่นใจว่าหากการเมืองนิ่งธุรกิจอีเวนต์จะเติบโตอีกมาก
โดยสัดส่วนรายได้ของไรท์แมน แบ่งเป็น 30% จากธุรกิจรับจัดอีเวนต์ อีก 30% มาจากรับจัดเอ็กซิบิชัน และอีก 30% มาจากการรับทำและบริหารพิพิธภัณฑ์ ส่วนที่เหลืออีก 10% มาจากรายได้อื่น ซึ่งในตลาดมิวเซียมไรท์แมนมีส่วนแบ่ง 60% ของตลาดรวม แต่ยอมรับว่าเซกเมนต์นี้เป็นธุรกิจที่มีความยั่งยืน แต่ก็มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
“ที่ผ่านมาภาพของไรท์แมนถูกนำไปเชื่อมกับการเมือง ซึ่งขอบอกว่าไม่เป็นเรื่องจริง และเรื่องการเข้าบริหารศูนย์ประชุมฯ เชียงใหม่นั้นก็ยังไม่เป็นจริง เพราะขณะนี้ ททท.ยังร่าง TOR ไม่เสร็จ แต่หากเสร็จและเปิดประมูลทางบริษัทก็สนใจเข้าไปประมูล”
นายอุปถัมภ์กล่าวอีกว่า ธุรกิจรับบริหารศูนย์ประชุม โดยเฉพาะที่เชียงใหม่นั้น เป็นงานที่ไม่ทำรายได้มากนัก เพราะการบริหารศูนย์แบบนี้ใช้ทุนสูงและเชียงใหม่จำนวนงานก็น้อยกว่ากรุงเทพฯ แถมยังมีต้นทุนที่ต้องจ่ายเป็นค่าสาธารณูปโภคสูงถึงปีละ 40 ล้านบาท แต่การเข้าร่วมประมูล เพราะมองเป็นโอกาสเท่านั้น