เงินทะลักเข้าไทยดันบาทแข็งโป๊กรอบ 5 เดือน ธปท. ยันไม่ต้องออกมาตรการดูแลเพิ่มเติม เพราะอยู่ในระดับเดียวกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค ระบุ ค่าเงินบาทยังไม่ได้ผันผวนมากจนน่าเป็นห่วง เพราะเงินทุนไหลเข้า-ออกสมดุล มีแรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐ ก็มีแรงซื้อกลับ
นายสิงห์ชัย บุณยโยธิน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงผลกระทบจากมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประกาศเข้าช่วยซื้อพันธบัตร 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน เพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีกำหนด และการประกาศคงดอกเบี้ยในระดับต่ำร้อยละ 0-0.25 ต่อไปอีกจนถึงกลางปี 2558 โดยยอมรับว่า เริ่มมีผลทำให้เงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้าภูมิภาคเอเชียและไทยเพิ่มมากขึ้นบ้างแล้ว และการไหลเข้าของเงินทุนเคลื่อนย้ายดังกล่าวก็มีผลให้เงินบาทวันนี้ปรับแข็งค่าขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับเมื่อวานนี้ โดยเงินบาทเคลื่อนไหวจากระดับ 31.02 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปรับแข็งค่าเป็นระดับ 30.85-30.86 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในวันนี้ และถือว่าเป็นการแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 5 เดือน
“การดูแลในช่วงนี้คงยังไม่มีการออกมาตรการอะไรเพิ่มเติม แต่จะติดตามดูแลสถานการณ์ตลาดการเงินและค่าเงินบาทใกล้ชิดมากขึ้น เพราะถึงเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น แต่ก็ถือว่าแข็งในระดับเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค และเงินบาทก็ไม่ได้ผันผวนมากจนน่าห่วง เพราะเงินทุนไหลเข้า-ออกสมดุล มีแรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐก็มีแรงซื้อกลับ ดังนั้นยังไม่จำเป็นต้องหามาตรการเสริมในขณะนี้ ”
ทั้งนี้ ภาวะเงินทุนไหลเข้ามาในภูมิภาครอบนี้ส่งผลให้เงินของมาเลเซียแข็งขึ้นร้อยละ 1 สิงคโปร์แข็งขึ้นร้อยละ 0.6 ไต้หวันแข็งค่าขึ้นร้อยละ 0.7 ฟิลิปปินส์แข็งขึ้นร้อยละ 0.4 เกาหลีใต้แข็งค่าขึ้นร้อยละ 0.6 ยกเว้นเงินของอินโดนีเซียที่ไม่ปรับแข็งค่าขึ้นเลย สถานการณ์โดยรวมในขณะนี้จากการผ่อนมาตรคลายของเฟด มีผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกเป็นบวก ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้น ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับตลาดพันธบัตรก็มีเงินไหลเข้าลงทุนมากขึ้น