บีโอไอเผยสถิติขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 8 เดือนปี 2555 สูงถึง 691,000 ล้านบาท เป็นการฟื้นฟูการลงทุนจากน้ำท่วม 15% ของมูลค่าเงินลงทุนที่ยื่นขอรับส่งเสริม แสดงให้เห็นว่าการลงทุนที่ขยายตัวในปีนี้ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของรายเดิมและรายใหม่ มิใช่มาจากโครงการที่ถูกน้ำท่วม
นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยถึงภาวะการลงทุนภาคอุตสาหกรรมว่า ระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม 2555 มีการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 1,410 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 691,000 ล้านบาท โดยจำนวนโครงการขยายตัวเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับจำนวนโครงการที่ขอรับส่งเสริมในช่วงเดียวกันของปี 2554 ซึ่งมีจำนวน 1,137 โครงการ ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนขยายตัว 115% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 ซึ่งมีมูลค่า 322,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ กิจการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนส่วนใหญ่ หรือ 55% จากจำนวนโครงการที่ขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งหมด เป็นการขอขยายการลงทุนจากโครงการเดิม โดยมีจำนวน 781 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 449,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือหรือประมาณ 45% เป็นการลงทุนของกิจการใหม่ จำนวน 629 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 242,000 ล้านบาท
สำหรับอุตสาหกรรมที่มีการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 8 เดือนมากที่สุด คือ อุตสาหกรรมบริการ และสาธารณูปโภค จำนวน 367 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 183,000 ล้านบาท รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี กระดาษ พลาสติก มีการยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 195 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 169,000 ล้านบาท ตามด้วยยานยนต์ เครื่องจักร และโลหะ มีจำนวน 346 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 140,000 ล้านบาท ตามด้วยอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 228 โครงการ มูลค่ารวม 101,000 ล้านบาท
“ก่อนหน้านี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า การขยายตัวของการลงทุนมาจากโครงการที่ฟื้นฟูการลงทุนหลังน้ำท่วม แต่จากการตรวจสอบพบว่าโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมเพื่อฟื้นฟูหลังน้ำท่วมมีจำนวน 145 โครงการ หรือประมาณ 10% จากโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมทั้งหมด 1,410 โครงการ ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนของโครงการที่ฟื้นฟูหลังน้ำท่วมมีมูลค่า 107,565 ล้านบาท หรือประมาณ 15% จากมูลค่าเงินลงทุนของโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมทั้งหมด 691,000 ล้านบาท ซึ่งหากหักลบส่วนโครงการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม มูลค่าโครงการลงทุนที่ขอรับส่งเสริมปกติก็ยังสูงถึง 583,435 ล้านบาท และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2554 ประมาณ 81% ด้วย” เลขาธิการบีโอไอกล่าว