บิ๊กโคล่าเร่งสยายปีกสกัดแบรนด์น้ำอัดลมน้องใหม่จากเสริมสุขชิงชิ้นเค้ก อัดงบลงทุนหลายพันล้านบาทผุดโรงงานแห่งที่ 2 ที่ภาคเหนือ จ่อขยายกำลังการผลิตเท่าตัว ขยายคลังสินค้า 30 แห่ง ตัวแทนจำหน่ายย่อย 60 ราย
นายโซริน วอยเนีย หัวหน้าฝ่ายการตลาด เอเชียแปซิฟิก บริษัท อาเจ กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมบิ๊ก โคล่า เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมมงบประมาณลงทุนหลายพันล้านบาทเพื่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ขึ้นที่ภาคเหนือ บนพื้นที่ 40 ไร่ เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเท่าตัวรองรับการเติบโตของเครื่องดื่มน้ำอัดลมบิ๊กโคล่า ซึ่งส่วนแบ่งการตลาด 8 เดือน หรือมกราคม-สิงหาคมมีถึง 15-20% นอกจากนี้ การตั้งโรงงานแห่งใหม่ยังช่วยลดต้นทุนการกระจายสินค้าทางภาคเหนือ พร้อมกันนี้บริษัทยังทยอยเปิดคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพิ่มจาก 12 แห่งในปีที่ผ่านมากระทั่งปัจจุบันเป็น 30 แห่ง อีกทั้งยังมีตัวแทนจำหน่ายย่อยมากกว่า 60 รายครอบคลุมทั่วภูมิภาคของประเทศ
ทั้งนี้ การผุดโรงงานแห่งใหม่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในช่วงครึ่งแรกของปี 56 อย่างไรก็ตาม แผนการลงทุนและขยายคลังสินค้าเพื่อรองรับการแข่งขันตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 3 หมื่นล้านบาทที่คาดว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้นจากการที่มีแบรนด์ใหม่จากบริษัทเสริมสุขเข้ามาทำตลาด ซึ่งบริษัทมีความมั่นใจว่าแบรนด์บิ๊ก โคล่าจะเติบโตได้อีกมาก แม้ว่าคู่แข่งจะมีประสบการณ์ทำตลาดน้ำอัดลมมานานก็ตาม นอกจากนี้ น้ำอัดลมในประเทศไทยยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และมีการเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากยังมีช่องว่างทางการตลาด อีกทั้งอัตราการดื่มน้ำอัดลมของคนไทยยังน้อยเมื่อเทียบกับอเมริกา หรือเม็กซิโก
“สภาพตลาดน้ำอัดลมในเอเชียยังขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจากคนเริ่มมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ต้องการเครื่องดื่มที่ดียิ่งขึ้น โดยคาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าตลาดเอเชียจะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับไทยถือว่าเป็นตลาดใหญ่ในเซาท์อีสต์เอเชีย ขณะที่อินโดนีเซียก็เป็นตลาดที่มีการขยายตัวสูง”
นายโซรินกล่าวว่า ท่ามกลางการแข่งขันที่มีความรุนแรงมากขึ้น การใช้งบการตลาดต้องมีการพิจารณามากขึ้น ล่าสุดรุกสปอร์ตมาร์เกตติ้ง ได้ทุ่มงบ 160 ล้านบาทเปิดตัวแคมเปญการตลาดระดับภูมิภาค “บิ๊กโคล่า ท้าดวล จุดโทษกับโจ ฮาร์ท” ด้วยกัน 4 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ใช้งบ 60 ล้านบาท เวียดนาม 40 ล้านบาท อินโดนีเซีย 40 ล้านบาท และอินเดีย 20 ล้านบาท โดยแต่ละประเทศจะเฟ้นหาตัวแทนประเทศละ 2 คนเข้าร่วมดวลจุดโทษกับโจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษและสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี ที่ประเทศอังกฤษ โดยแคมเปญดังกล่าวจะเริ่มพร้อมกัน 15 ก.ย.นี้ 3 ประเทศ คือ ไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ การดำเนินกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เกตติ้ง บริษัทไม่ได้คาดหวังด้านยอดขาย แต่ต้องการให้สร้างความเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค จากการสำรวจพบว่าการรับรู้ต่อผลิตภัณฑ์บิ๊ก โคล่า 98% และ 86% รับรู้ว่ามีส่วนร่วมกับฟุตบอลระดับโลก และจากสถิติล่าสุดของยูโรมอนิเตอร์ บิ๊ก โคล่าอยู่ในลำดับที่ 4 ของโลกในกลุ่มเครื่องดื่มอัดลม และอันดับ 10 ของโลก ในกลุ่มเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ สำหรับบิ๊ก โคล่ามียอดขายเติบโตโดยเฉลี่ย 30% ต่อปี