“โค้ก” โวคอร์ปอเรตแชร์ทะลุ 54% ช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ ชี้คนใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นพุ่ง ส่งผลตลาดน้ำอัดลมโตดี ทุ่มงบตลาด 115 ล้านบาทลุยไตรมาสสามด้วยแคมเปญใหญ่ ดึง “แพนเค้ก” เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์
นายธิติ ตวงสิทธิตานนท์ ผู้จัดการการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ โคคา-โคลา บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกนี้มีอัตราการเติบโตมากถึง 18% รวมทั้งพอร์ตโฟลิโอของบริษัทที่เป็นน้ำอัดลม คือโค้ก, แฟนต้า, สไปร์ท มากกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 10% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมากเมื่อเทียบกับในอดีตที่เคยเติบโตสูงเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา คือปี 2553 ประมาณ 15-18% เท่านั้น ซึ่งสาเหตุหลักที่เติบโตได้ดีเพราะความร่วมมือของทีมงานทั้งหาดทิพย์และบริษัท รวมทั้งการทำตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และอากาศร้อนที่มาเร็วและร้อนนานด้วย ขณะที่ตลาดรวมน้ำอัดลมช่วง 5 เดือนแรกปีนี้มีการเติบโต 12% แต่ก็อยู่ในทิศทางที่ดี เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ดีขึ้น ส่งผลต่อกำลังซื้อมากขึ้นด้วย ซึ่งในทุกตลาดทุกประเทศที่เมื่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีตลาดก็จะดีตามไปด้วย
ทั้งนี้ ช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ โคคา-โคลามีคอร์ปอเรตแชร์รวมประมาณ 54% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 48% ส่วนปีที่แล้วทั้งปีมีคอร์ปอเรตแชร์อยู่ที่ 50.7% และยอดขายเติบโต 3% ขณะที่ตลาดรวมไม่เติบโต และคาดว่าปีนี้ทั้งปีก็จะมีแชร์รวม 54% โดยบริษัทยังคงเป็นผู้นำในตลาดน้ำอัดลมรวมในไทย เพราะปีที่แล้วบริษัทยังพอจำหน่ายสินค้าได้บ้างแม้จะมีเหตุการณ์น้ำท่วม และคาดว่าปีนี้ตลาดรวมน้ำอัดลมจะเติบโตประมาณ 10-15% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 38,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนตลาดน้ำดำมากกว่า 70%
แนวทางการรุกตลาดของเครื่องดื่มโค้กจะมุ่งเน้นขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยรุ่นและกลุ่มเพิ่งเริ่มทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปัจจุบันก็มีฐานตลาดในกลุ่มเหล่านี้มากถึง 50% แล้ว ด้วยการเปิดแคมเปญการสื่อสารการตลาดที่ครบวงจร การเข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุดด้วยการทำตลาดที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยปีนี้จะใช้งบการตลาดสำหรับแบรนด์โค้กประมาณ400 กว่าล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ใช้ 300 ล้านบาท
ล่าสุดใช้งบการตลาดรวม 115 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสที่สามปีนี้รวม 3 เดือน เพื่อสานต่อแคมเปญใหญ่ในเฟสที่สาม คือ “ต้องซ่า ต้องกล้า ต้องโค้ก” ด้วยการแต่งตั้งให้ “แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์” นักแสดงดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์และแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนล่าสุด โดยมีสัญญานาน 1 ปี โดยจะมีทั้งการออกหนังโฆษณาชุดใหม่ชื่อชุด “กีตาร์” และการแจกเครื่องดื่มฟรีมากกว่า 1 ล้านขวด การทำกิจกรรมต่างๆ
“เมื่อช่วงต้นปีเราได้เปิดตัวแคมเปญใหญ่ “เปิดโค้ก เปิดความสุขให้ชีวิต” โดยมุ่งเน้นความเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตของผู้บริโภคผ่านกิจกรรมการสื่อสารการตลาดครบวงจรทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ต่อเนื่อง ทำให้ตั้งแต่ต้นปียอดแฟนเพจคนไทยในเพจของ www.facebook.com/cocacola ของเราพุ่งขึ้นถึง 55% ซึ่งกิจกรรมการตลาด “หนึ่งล้านความเชื่อมั่นในเมืองไทย” ก็มีคนเข้าร่วมแชร์ร่วมชอบทั้งออนไลน์และออฟไลน์มากกว่า 970,000 ครั้ง เราจึงสานต่อด้วยแคมเปญ ต้องซ่า ต้องกล้า ต้องโค้ก”
อย่างไรก็ตาม ในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ลอนดอน ซึ่งบริษัทแม่ของโค้กเป็นเวิลด์ไวด์สปอนเซอร์ แต่ในเมืองไทยไม่ได้ทำอะไรมากนัก โดยบริษัทแม่จะมีกิจกรรมหลักอยู่ในประเทศอังกฤษดังกล่าวมากกว่าการจัดกิจกรรมภายในประเทศไทย