ครม.ไฟเขียว ขสมก.กู้เงิน 1.4 หมื่นล้าน อนุมัติ กทพ.กู้เงิน 6.5 พันล้านบาท ปรับโครงสร้างหนี้-พันธบัตรที่ครบกำหนด พร้อมเห็นชอบจ่ายเงินชาวไร่อ้อย ชดเชยผลกระทบจากการปนเปื้อนสารแคดเมียม
น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนกู้เงินขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในปีงบประมาณปี 2556 วงเงิน 14,664 ล้านบาท เพื่อไถ่ถอนพันธบัตรซึ่งจะครบกำหนดในปีนี้ 11,686 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายภาระดอกเบี้ย 2,978 ล้านบาท โดยเสนอให้กระทรวงการคลังค้ำประกัน
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ขสมก.มีภาระขาดทุนสะสมมานาน 70,000 ล้านบาท ครม.จึงต้องการแยกตัวเลขให้ชัดเจนระหว่างผลดำเนินงานในปัจจุบันของ ขสมก. กับภาระหนี้ที่มีอยู่
ที่ประชุม ครม.ยังอนุมัติให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กู้เงินในประเทศเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้และพันธบัตรที่ครบกำหนดชำระในปีงบประมาณ 2555 จำนวน 9,119.16 ล้านบาท (เงินกู้ 1,850 ล้านบาท และพันธบัตร 7,269.16 ล้านบาท) โดยอนุมัติให้ กทพ.กู้เงินแบบ Roll Over วงเงิน 6.5 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้เงินรายได้ของ กทพ.ชำระหนี้
ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่า การกู้เงินในประเทศเพื่อดำเนินการบริหารจัดการทางด้านการเงินในการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของ กทพ. เพื่อให้ กทพ.สามารถบริหารงานตามภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.วันนี้เห็นชอบให้กระทรวงพลังงานชดเชยให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ปลูกอ้อย เพื่อเป็นพืชพลังงานทดแทนในพื้นที่โครงการที่มีการปนเปื้อนสารแคดเมียม ลุ่มน้ำแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จำนวนเกษตรกร 1,072 ราย พื้นที่เพาะปลูก 46,627 ไร่ ปริมาณอ้อยเข้าโรงหีบจำนวน 393,000 ตัน
ทั้งนี้ เป็นการชดเชยในอัตรา 200 บาทต่อตัน เพิ่มจากราคารับซื้อโดยการใช้งบกลางปี 2555 จำนวน 78 ล้านบาท นอกจากนี้ยังสั่งการให้จัดตั้งคณะทำงานกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสารปนเปื้อนแคดเมียมในลุ่มน้ำตาว
