หอการค้าฯ ชง 9 มาตรการเร่งด่วนกระตุ้น ศก.และกู้ “จีดีพี” ไม่หลุด 5% พร้อมทบทวน “ประชานิยม” พร้อมรณรงค์การใช้สินค้าไทย และลดการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย
นายภูมินทร์ หะรินสุต รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ยอมรับหอการค้าไทยเป็นห่วงผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐฯ ที่ลุกลามมายังเศรษฐกิจประเทศสำคัญในเอเชีย เช่น จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน สิงค์โปร์ และฮ่องกง ทำให้ตัวเลขการส่งออกชะลอตัวลงต่อเนื่อง ซึ่งหากรัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวร้อยละ 5-6 และในปีหน้าขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 รัฐบาลจะต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศเพื่อชดเชยผลกระทบจากการส่งออก
ทั้งนี้ หอการค้าไทยได้เสนอ 9 มาตรการเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่ การอัดฉีดงบประมาณโครงการภาครัฐ โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ โดยดูแลความโปร่งใสในการใช้งบประมาณและการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันควบคู่กันไปด้วย และควรส่งเสริม หรืออำนวยความสะดวกการค้าชายแดนให้ขยายตัวต่อเนื่องพร้อมทั้งดูแลอัตราแลกเปลี่ยนให้มีเสถียรภาพอยู่ในระดับที่แข่งขันกับเพื่อนบ้านได้ ควบคู่กับการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวให้มีความสามารถแข่งขันและมีมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยหน่วยงานภาครัฐควรเดินทางไปดูงานต่างประเทศเพื่อช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ รัฐบาลควรดูแลเสถียรภาพทางการเมืองเพื่อสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งผู้บริโภค รวมทั้งเตรียมมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้ภาคธุรกิจ บรรเทาผลกระทบจากยูโรโซน และดูแลราคาพลังงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่เป็นอุปสรรคต่อต้นทุนการผลิตในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนส่วนใหญ่ยังมีความกังวลว่าเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะปัญหายูโรโซนจะประสบปัญหามากจนกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในปีหน้า จึงต้องการให้รัฐบาลชะลอ และทบทวนนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 1 มกราคม 2556 ออกไปก่อน พร้อมเร่งกระตุ้นประชาชนหันมาใช้สินค้าไทย และลดการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย
นายธนวรรธน์กล่าวว่า หอการค้าไทยมองว่าตัวเลขการส่งออกปีนี้มีโอกาสขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 5 หากคิดเป็นมูลค่าในแต่ละเดือนที่มีการคาดการณ์ว่าจะส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงอาจทำให้ตัวเลขการส่งออกในช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีนี้ลดลงเฉลี่ยต่อเดือน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับมูลค่าการส่งออกจะหายไป 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่การส่งออกปีนี้จะมีโอกาสขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 4 หรือไม่ ทางศูนย์พยากรณ์ฯ ขอเวลาทบทวนและจะประกาศตัวเลขการส่งออกอีกครั้งในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ โดยขณะนี้ยังคงตัวเลขการส่งออกว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 5.8
