ทอท.เร่งก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 วงเงิน 6.25 หมื่น ล.เสร็จในปี 60 เจรจา PMC ปรับแผนเร่งรัดงานเหลือ 58 เดือนจาก 70 เดือนหรือเร็วขึ้น 12 เดือน และอนุมัติจ้างซิโน-ไทยขยายสนามบินภูเก็ต วงเงิน 5.14 พัน ล. เสร็จปี 57 เพิ่มขีดรองรับผู้โดยสารจาก 6.5 ล้านคนเป็น 12.5 ล้านคนต่อปี
พลอากาศเอก สุเมธ โพธิ์มณี ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด ทอท.เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ได้มีมติเห็นชอบการปรับลดเวลาการดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ระยะที่ 2 โดยกลุ่มบริษัท EPM Consortium ซึ่งเป็นที่ปรึกษาบริหารจัดการโครงการ ( PMC) ได้เสนอแนวทางการเร่งรัดงานโครงการพัฒนา ทสภ.โดยปรับลดจากเดิม 70 เดือน (วันที่ 1 มิถุนายน 2555-มีนาคม 2561) เหลือ 58 เดือน(วันที่ 1 มิถุนายน 2555-มีนาคม 2560) โดยให้ฝ่ายบริหาร ทอท.เร่งรัดดำเนินงานโครงการให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป
ทั้งนี้ ตามแผนงานดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ระยะที่ 2 ระหว่างปี 2554-2560 ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 70 เดือนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารจาก 45 ล้านคนเป็น 60 ล้านคนต่อปี วงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 62,503.214 ล้านบาท ประกอบไปด้วย กลุ่มงานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก งานออกแบบและก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค และงานจ้างที่ปรึกษาบริหารจัดการโครงการ (PMC) ซึ่ง ทอท.ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัท EPM Consortium เป็นที่ปรึกษาบริหารโครงการฯ เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 จนถึงเดือนมีนาคม 2561 และ ทอท.ได้เจรจาและศึกษากับกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา EPM ในการปรับลดเวลาการดำเนินโครงการฯ ตามนโยบายนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หลังเดินทางตรวจเยี่ยม ทสภ.เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2554
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้อนุมัติให้ ทอท.ว่าจ้างบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินการก่อสร้างงานตามโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) (ปีงบประมาณ 2553-2557) เนื่องจากเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด โดยมีวงเงินค่าก่อสร้างเป็นวงเงินทั้งสิ้น 5,146,700,000 บาท ซึ่งขณะนี้การดำเนินการจัดจ้างอยู่ระหว่างกระบวนการเซ็นสัญญาว่าจ้าง และจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างตามโครงการพัฒนา ทภก.ได้ในวันที่ 20 กันยายน 2555 โดยจะดำเนินการก่อสร้างในส่วนแรก คือ การขยายลานจอดอากาศยานเพิ่มเติมให้สามารถรองรับอากาศยานได้ทั้งหมด 21 หลุมจอด พร้อมทั้งปรับปรุงขยายระบบเติมน้ำมันอากาศยานทางท่อ การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ รวมทั้งปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิมเป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และการก่อสร้างอาคารทดแทน ตลอดจนการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 930 วัน
สำหรับท่าอากาศยานภูเก็ตนั้นมีปริมาณการจราจรทางอากาศและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทอท.จึงได้เร่งดำเนินงานโครงการพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพของท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งเป็นท่าอากาศยานที่มีผู้มาใช้บริการมากเป็นอันดับ 2 รองจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งโครงการพัฒนา ทภก. (ระหว่างปี 2553-2557) จะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 6.5 ล้านคน เป็น 12.5 ล้านคนต่อปี โดยได้ประกาศการประมูลเพื่อคัดเลือกผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการฯ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2555 และมีผู้ยื่นซองประมูลฯ จำนวน 5 ราย