“อีเลคโทรลักซ์” มั่นใจตลาดไทย บริษัทแม่ลงทุนต่อเนื่อง ล่าสุดผุดโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มใหม่ ชูไทยเป็นฮับส่งออกอาเซียน เผยยอดขายครึ่งปีแรกโตสองหลัก
นายสุทธิ มโนกิจจรูญมั่น ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทแม่ของอีเลคโทรลักซ์จากสวีเดนยังคงมีความมั่นใจกับตลาดในประเทศไทยและมีแผนเดินหน้าลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้บริษัทแม่ได้ลงทุนในปริมาณที่มากสร้างโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มใหม่ในโรงงานที่ จ.ระยอง อยู่ในพื้นที่เดียวกับโรงงานในปัจจุบัน และใช้ไทยเป็นฐานส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ในปัจจุบันเป็นฐานผลิตสำคัญสำหรับผลิตกลุ่มเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าเพื่อส่งออกไปในตลาดภูมิภาคอาเซียน คาดว่าจะเริ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ได้ในต้นปี 56 ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มลงทุนแล้ว
สำหรับยอดขายของบริษัทฯ ช่วงครึ่งปีแรกนี้มีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักจากปี 2554 ซึ่งสูงกว่าตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน และยังสูงสุดในรอบ 8 ปีของบริษัทฯ อีกด้วย เนื่องจากเรามีสินค้านวัตกรรมใหม่ออกสู่ตลาดต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่า ในสิ้นปีนี้จะสร้างยอดขายเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก
ขณะที่ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนของไทยมีมูลค่าประมาณ 50,000 ล้านบาท เติบโตเพียง 5-10% เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนที่ตลาดรวมเติบโต 10-15% เพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคยังชะลอตัวอยู่หลังจากเกิดปัญหาน้ำท่วมในปีก่อน และกำลังการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าของหลายแบรนด์ในตลาดยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ
อย่างไรก็ตาม แผนการตลาดครึ่งปีหลังได้เปิดตัวเตาแก๊สรุ่นใหม่ บริโอ (Brio) และแมกซีเฟรม (Maxiflame) ที่เหมาะต่อการทำอาหารทุกรูปแบบ และมีดีไซน์ที่สวยงาม รวมทั้งช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้นด้วย เพื่อจับตลาดกลุ่มลูกค้าคนไทยที่ชื่นชอบการทำอาหาร ซึ่งพฤติกรรมของคนไทยชื่นชอบการทำอาหารสูงสุดในภูมิภาคเอเชีย คิดเป็นสัดส่วน 85% และยังชื่นชอบการคิดเมนูใหม่ในสัดส่วน 50% รวมทั้งคนไทยชอบการรับประทานอาหารในบ้านมากขึ้นในสัดส่วน 60%
ทั้งนี้ ได้จัดโปรโมชันให้ลูกค้านำเตาแก๊สรุ่นเก่ามาแลกเตาแก๊สอีเลคโทรลักซ์ ได้ส่วนลดสูงถึง 6,000 บาท เริ่มวันนี้จนถึง 30 ก.ย. 55 ซึ่งเตาแก๊สรุ่นใหม่ บริโอ ราคาเริ่มต้นที่ 7,000-13,000 บาท รุ่นแมกซีเฟรม ราคา 12,000-14,000 บาท บริษัทฯ มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้ยอดขายกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก
ส่วนในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายอดขายกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเติบโต 3 เท่าเมื่อเทียบกับการเติบโตของตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ทำให้บริษัทจะเน้นสินค้ากลุ่มนี้ทำตลาดต่อไป ส่วนยอดขายของกลุ่มเครื่องซักผ้าเติบโตมากกว่าตลาดรวมเช่นกัน รวมทั้งยังมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น 5% อยู่ที่ 40% เป็นผู้นำในตลาดเครื่องซักผ้าฝาหน้า ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของบริษัทแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว
ขณะที่ตลาดรวมเครื่องซักผ้ามีมูลค่า 12,000 ล้านบาท ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาตลาดติดลบ 3-5% จากปีก่อน เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีเพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ และเครื่องซักผ้าหลายแบรนด์ยังไม่สามารถกลับมาผลิตสินค้าได้ตามปกติ
