xs
xsm
sm
md
lg

“อิตัลไทย” ลงสนามฟูด-เครื่องดื่ม ซื้อไลเซนส์ชาสิงคโปร์-อาหารจีน-เบเกอรี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อิตัลไทยสยายปีกปั้นสองธุรกิจใหม่ “ร้านอาหารและเครื่องดื่ม- อสังหาริมทรัพย์” ดอดซื้อแฟรนไชส์ทีดับเบิลยูจีจากสิงคโปร์ ทุ่มงบ 100 ล้านบาทผุดร้านชา TWG Tea Salon & Boutique ปูพรม 3 สาขา ลั่นปีแรกกวาดรายได้ 120 ล้านบาท ไม่เกิน 5 ปี คุ้มทุน ลั่นปักหลักขยายร้านบัตเตอร์คัพ สร้างอาณาจักรธุรกิจใหม่เต็มสูบ หลังซุ่มเปิดร้านอาหารจีนที่โรงแรมในโอเรียนเต็ล
ประเดิม 1 สาขา

นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครืออิตัลไทย กรุ๊ป และอิตัลไทย ฮอสพิทาลิตี้ ผู้ดำเนินธุรกิจการก่อสร้างภายใต้บริษัทอิตัลไทยวิศวกรรม เปิดเผยว่า นโยบายของบริษัทให้ความสำคัญต่อกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นธุรกิจใหม่ที่บริษัทเพิ่งทำได้ไม่ถึง 5 ปี เมื่อเทียบกับอีก 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจการค้าทั่วไป กลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับบริหารจัดการโรงแรม และธุรกิจการก่อสร้างที่ดำเนินการมากว่า 60 ปี ล่าสุดบริษัทเปิดตัวธุรกิจในพอร์ตของอิตัลไทย ฮอสพิทาลิตี้ หรือธุรกิจกลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยเข้าไปซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ทีดับเบิลยูจีที (TWG Tea) จากประเทศสิงคโปร์ 

นำร่องด้วยการทุ่มงบ 100 ล้านบาทเปิดร้าน TWG Tea Salon & Boutique ด้วยกัน 3 สาขา ที่ ดิเอ็มโพเรียม บนพื้นที่ 200 ตร.ม. และที่สยามพารากอน สาขาที่ 2 ในเดือนมิถุนายน ปีหน้า และที่ดิเอ็มโพเรียม 2 โดยภายในร้านจะมีการบริการอาหารและเครื่องดื่ม และมีชาทีดับเบิลยูจีวางจำหน่าย อาทิ ขนาด 15 ซอง ราคา 630 บาท นอกจากนี้บริษัทยังจำหน่ายรูปแบบโฮลเซลเจาะช่องทางโรงแรมและร้านอาหารระดับ 5 ดาว

สำหรับชาทีดับเบิลยูจีมีด้วยกันกว่า 800 รายการ ซึ่งบริษัทนำเข้ามา 450 รายการ นอกจากนี้ยังมีชาที่ได้รับการออกแบบเฉพาะในประเทศไทย เป็นชาอู่หลง เจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 25 ปีขึ้นไปทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 

“ทีดับเบิลยูจีมีการขยายธุรกิจในอาเซียนเพิ่มขึ้น เช่น ในฮ่องกง มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เมื่อเทียบกับยุโรปและอเมริกาที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ และประชากรในอาเซียนมีกำลังการซื้อสูง และมีพฤติกรรมการดื่มชามากขึ้น ทั้งภายในร้านและซื้อกลับไปดื่มที่บ้าน อีกทั้งการนำเข้าชาไปจำหน่ายแต่ละประเทศเสียภาษีแทบจะเกือบ 0% โดยได้รับอานิสงส์จากเขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area) จากเดิมภาษีนำเข้าชา และกาแฟสูงถึง 70-90%”

นายยุทธชัยกล่าวว่า บริษัทได้วางแผนจะขยายสาขา TWG Tea Salon & Boutique ในกรุงเทพฯ 5 สาขา จากนั้นจะเปิดร้านในเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต พัทยา วางเป้า 1 สาขาต่อปี และเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้าบริษัทจะขยายธุรกิจทีดับเบิลยูจีในรูปแบบโฮลเซลในประเทศลาว และตั้งเป้าหมายรายได้ธุรกิจ TWG Tea Salon & Boutique ในปีแรก 120 ล้านบาท และคาดว่าไม่เกิน 5 ปีคุ้มทุน โดยสัดส่วนรายได้แบ่งเป็น รีเทล 50% และโฮลเซล 50% 

นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนขยายร้านค้า บัตเตอร์คัพ หรือร้านจำหน่ายเบเกอรี ไอศกรีม และเครื่องดื่ม ซึ่งมีน้องสาว “จิตราพรรณ จรณะจิตต์” เป็นผู้ดูแลกิจการ และก่อนหน้านี้บริษัทยังได้เปิดตัวร้านอาหารจีนภายใต้แบรนด์ Mandopop ที่โรงแรมในโอเรียนเต็ลไปแล้ว 1 สาขา

ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เช่น คอนโดมิเนียม AMYRA อมารี เรสซิเด้นท์ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ากลุ่มธุรกิจร้านอาหาร เครื่องดื่ม และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จะเป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีรายได้เติบโตมากขึ้นในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น