คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN
โรคที่เกิดจากการร่วมเพศ หรือ กามโรค มีด้วยกัน 5 โรคคือ
1. โรคตกขาว (TRICHOMONIASIS)
คือการติดเชื้อในช่องคลอด โดยมีสาเหตุจากพยาธิ มีลักษณะอาการขับสารสีเขียวหรือเหลืองข้น มักจะมีกลิ่นเหม็นหรือคันและแสบร้อน ต้องรักษาใช้ยาตามใบสั่งแพทย์
2. โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ (CHLAMYDIA)
เป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย สังเกตได้ว่าจะมีการขับสารสีเขียวหรือเหลืองข้น เจ็บหรือแสบร้อนขณะปัสสาวะ หรือไม่มีสัญญาณใดๆ ต้องมีหาหมอ เพื่อใช้ยาปฏิชีวนะรักษา หากปล่อยทิ้งไว้ มันอาจเป็นอันตรายต่อการเจริญพันธุ์ของคุณได้
3. โรคหนองใน (GONORRHEA)
เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียเหมือนกัน จะปวดแสบปวดร้อนขณะปัสสาวะ ขับสารสีเขียวหรือเหลืองข้น หรือไม่มีสัญญาณใดๆ สามารถใช้ยาปฏิชีวนะรักษาได้ แต่ถ้าปล่อยไว้โดยไม่ตรวจ มันอาจมีผลต่อการเจริญพันธุ์ของคุณได้
4. โรคหงอนไก่ (HPV)
เกิดจากการติดเชื้อไวรัส โดยทั่วไปจะไม่มีอาการใดๆ แต่ไวรัสบางชนิดทำให้เกิดหูดหรือที่เรียกว่าหงอนไก่ได้
HPV บางชนิดนำไปสู่มะเร็งปากมดลูก แต่เชื้อ HPV มักตรวจไม่ค่อยพบ ดังนั้นสูตินรีแพทย์ของคุณอาจตรวจซ้ำใน 3 ถึง 6 เดือน ถ้าคุณมีหูดหรือหงอนไก่ หมอก็จะกำจัดมันด้วยครีมหรือเลเซอร์
5. โรคเริมอวัยวะเพศ (GENITAL HERPES)
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเช่นกัน เวลาเป็น..จะมีอาการคัน เจ็บปวด เป็นตุ่มพุพองคล้ายสิว แต่บางคนไม่มีสัญญาณใดๆ ไปหาหมอกินยาตามใบสั่งแพทย์ จะช่วยลดอาการลงได้
*วิธีป้องกัน*
: อย่าอายที่จะใช้สารหล่อลื่น
การหล่อลื่นเพิ่มเติมจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อกามโรคของคุณได้โดยทำให้ช่องคลอดของคุณเปียกลื่นอยู่เสมอในขณะร่วมเพศ และนั่นเป็นการป้องกันมิให้เกิดแผลถลอกจิ๋วๆ ซึ่งแบคทีเรียและไวรัสจะแทรกซึมเข้าไปใน ร่างกายของคุณได้
“สารหล่อลื่นยังช่วยลดการเสียดสีซึ่งอาจทำให้ถุงยางฉีกขาดขณะร่วมเพศได้ด้วย”
ดร.คัลลินส์ กล่าว ดังนั้นคุณควรเก็บสารหล่อลื่นสักหลอด ไว้ในลิ้นชักหัวเตียงและอีก 1 หลอดจิ๋วๆหรือซองที่ใช้ครั้งเดียวไว้ในกระเป๋าถือของคุณ และอย่าอายที่จะหยิบมันออกมาใช้ มันเป็นเรื่องปกติที่ความเครียด รอบเดือน หรือแม้แต่การร่วมรักอันยาวนานที่เกี่ยวข้องกับการเสียดสีภายใน จะลดการผลิตสารหล่อลื่นตามธรรมชาติของคุณลงไป เพราะฉะนั้นคุณควรมีสารหล่อลื่นในหลอด เก็บไว้ใกล้ๆมือจะดีกว่า
: สำรวจให้แน่ใจก่อนร่วมเพศ
ถ้าเชื้อกามโรคสร้างเบาะแสอันชัดเจนต่อสายตาเสมอ มันก็ดีสิ เพราะมันช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงมันได้แต่โชคไม่ดีที่มันไม่เป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม เชื้อโรคหลายตัวยังทิ้งหลักฐานทางกายภาพไว้ให้เห็นจนได้ เช่น ผื่นแดง การขับสาร ตุ่มพุพอง เป็นต้น และมันก็คุ้มค่าต่อการสำรวจเครื่องเคราของผู้ชายของคุณอย่างละเอียดในระหว่างการโหมโรง
ยิ่งกว่านั้น จงสังเกตว่าผู้ชายของคุณ แสดงปฏิกิริยาด้วยความเจ็บปวดหรืออึดอัดใจอะไรหรือไม่เมื่อคุณสัมผัสองคชาตของเขา เพราะปฏิกิริยาดังกล่าวนี้สามารถเป็นสัญญาณของการติดเชื้อได้เช่นกัน ถ้าเขาเลิกคิ้วหรือสะดุ้ง ก็ให้ถามเขาทันทีว่าเป็นอะไร ใช่ มันอาจทำให้หมดอารมณ์ได้ แต่มันสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ตลอดชีวิต
: อย่าควบขณะมึนเมา
แน่ละ เรารู้ว่าการดื่มสักแก้วสองแก้วจะทำให้คุณมีโลกทรรศน์อันเซ็กซี่ได้ ซึ่งก็ดีอยู่หรอก แต่มันไม่ได้ช่วยให้คุณฉลาดขึ้นแต่ประการใด การมีเซ็กซ์ในเขตอันตรายอันกว้างขวางระหว่าง “มึนนิดๆ” กับ “เมาปลิ้น” นั้นเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อกามโรคมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคุณจะมีแนวโน้มลดลงในการยืนกรานให้เขาใช้ถุงยาง หรือ รู้ว่าเขาสวมมันอย่างถูกต้องหรือเปล่า ไม่ต้องพูดถึงว่าคุณจะมีสติพอที่จะหยิบถุงยางอันของคุณออกมาใช้หรอก คุณจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ หรือกำลังมีอะไรกับใคร เพราะฉะนั้นอย่าดื่มสุราจนมึนเมาเป็นอันขาด ไม่ว่าคุณจะขับรถหรือควบคน
: ให้แน่ใจว่ามันแนบกระชับ
ถุงยางแทบไม่มีประโยชน์เลยถ้าไม่ครอบคลุมตลอดองคชาตอย่างแนบกระชับ และมีช่องว่างเล็กๆตรงปลายสำหรับรองรับน้ำอสุจิขณะไคลแม็กซ์
รายงานข่าวเมื่อเร็วๆนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ชายจำนวนมากชอบซื้อถุงยางที่มีขนาดใหญ่เกินตัวองคชาตของเขา เพราะมันช่วยปลอบอหังการของพวกเขา (ว่ากูใหญ่นะเฟ้ย) แม้ว่าถุงยางอันนั้นจะหลวมโพรกเหมือนสวมถุงก๊อบแก๊บก็ตาม แต่ความหลวมมันหมายถึง แนวโน้มที่ถุงยางจะหลุดอยู่ในตัวคุณผู้หญิง อันเป็นการเปิดสู่การติดเชื้อกามโรคอย่างยิ่ง
ดังนั้น คุณควรจับตามองผู้ชายของคุณขณะเขารูดสวมถุงยาง และถ้ามันไม่ฟิต อย่างกางเกงยีนส์แนบเนื้อตัวโปรดของคุณละก็ รีบไปหยิบอันของคุณเองและพูดในทำนองว่า “ใช้ของฉันเถอะ รุ่นนี้ทำให้ฉันเร่าร้อนกว่าเยอะ” จากนั้นก็ยื่นขนาดมาตรฐานให้เขา
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
โรคที่เกิดจากการร่วมเพศ หรือ กามโรค มีด้วยกัน 5 โรคคือ
1. โรคตกขาว (TRICHOMONIASIS)
คือการติดเชื้อในช่องคลอด โดยมีสาเหตุจากพยาธิ มีลักษณะอาการขับสารสีเขียวหรือเหลืองข้น มักจะมีกลิ่นเหม็นหรือคันและแสบร้อน ต้องรักษาใช้ยาตามใบสั่งแพทย์
2. โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ (CHLAMYDIA)
เป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย สังเกตได้ว่าจะมีการขับสารสีเขียวหรือเหลืองข้น เจ็บหรือแสบร้อนขณะปัสสาวะ หรือไม่มีสัญญาณใดๆ ต้องมีหาหมอ เพื่อใช้ยาปฏิชีวนะรักษา หากปล่อยทิ้งไว้ มันอาจเป็นอันตรายต่อการเจริญพันธุ์ของคุณได้
3. โรคหนองใน (GONORRHEA)
เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียเหมือนกัน จะปวดแสบปวดร้อนขณะปัสสาวะ ขับสารสีเขียวหรือเหลืองข้น หรือไม่มีสัญญาณใดๆ สามารถใช้ยาปฏิชีวนะรักษาได้ แต่ถ้าปล่อยไว้โดยไม่ตรวจ มันอาจมีผลต่อการเจริญพันธุ์ของคุณได้
4. โรคหงอนไก่ (HPV)
เกิดจากการติดเชื้อไวรัส โดยทั่วไปจะไม่มีอาการใดๆ แต่ไวรัสบางชนิดทำให้เกิดหูดหรือที่เรียกว่าหงอนไก่ได้
HPV บางชนิดนำไปสู่มะเร็งปากมดลูก แต่เชื้อ HPV มักตรวจไม่ค่อยพบ ดังนั้นสูตินรีแพทย์ของคุณอาจตรวจซ้ำใน 3 ถึง 6 เดือน ถ้าคุณมีหูดหรือหงอนไก่ หมอก็จะกำจัดมันด้วยครีมหรือเลเซอร์
5. โรคเริมอวัยวะเพศ (GENITAL HERPES)
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเช่นกัน เวลาเป็น..จะมีอาการคัน เจ็บปวด เป็นตุ่มพุพองคล้ายสิว แต่บางคนไม่มีสัญญาณใดๆ ไปหาหมอกินยาตามใบสั่งแพทย์ จะช่วยลดอาการลงได้
*วิธีป้องกัน*
: อย่าอายที่จะใช้สารหล่อลื่น
การหล่อลื่นเพิ่มเติมจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อกามโรคของคุณได้โดยทำให้ช่องคลอดของคุณเปียกลื่นอยู่เสมอในขณะร่วมเพศ และนั่นเป็นการป้องกันมิให้เกิดแผลถลอกจิ๋วๆ ซึ่งแบคทีเรียและไวรัสจะแทรกซึมเข้าไปใน ร่างกายของคุณได้
“สารหล่อลื่นยังช่วยลดการเสียดสีซึ่งอาจทำให้ถุงยางฉีกขาดขณะร่วมเพศได้ด้วย”
ดร.คัลลินส์ กล่าว ดังนั้นคุณควรเก็บสารหล่อลื่นสักหลอด ไว้ในลิ้นชักหัวเตียงและอีก 1 หลอดจิ๋วๆหรือซองที่ใช้ครั้งเดียวไว้ในกระเป๋าถือของคุณ และอย่าอายที่จะหยิบมันออกมาใช้ มันเป็นเรื่องปกติที่ความเครียด รอบเดือน หรือแม้แต่การร่วมรักอันยาวนานที่เกี่ยวข้องกับการเสียดสีภายใน จะลดการผลิตสารหล่อลื่นตามธรรมชาติของคุณลงไป เพราะฉะนั้นคุณควรมีสารหล่อลื่นในหลอด เก็บไว้ใกล้ๆมือจะดีกว่า
: สำรวจให้แน่ใจก่อนร่วมเพศ
ถ้าเชื้อกามโรคสร้างเบาะแสอันชัดเจนต่อสายตาเสมอ มันก็ดีสิ เพราะมันช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงมันได้แต่โชคไม่ดีที่มันไม่เป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม เชื้อโรคหลายตัวยังทิ้งหลักฐานทางกายภาพไว้ให้เห็นจนได้ เช่น ผื่นแดง การขับสาร ตุ่มพุพอง เป็นต้น และมันก็คุ้มค่าต่อการสำรวจเครื่องเคราของผู้ชายของคุณอย่างละเอียดในระหว่างการโหมโรง
ยิ่งกว่านั้น จงสังเกตว่าผู้ชายของคุณ แสดงปฏิกิริยาด้วยความเจ็บปวดหรืออึดอัดใจอะไรหรือไม่เมื่อคุณสัมผัสองคชาตของเขา เพราะปฏิกิริยาดังกล่าวนี้สามารถเป็นสัญญาณของการติดเชื้อได้เช่นกัน ถ้าเขาเลิกคิ้วหรือสะดุ้ง ก็ให้ถามเขาทันทีว่าเป็นอะไร ใช่ มันอาจทำให้หมดอารมณ์ได้ แต่มันสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ตลอดชีวิต
: อย่าควบขณะมึนเมา
แน่ละ เรารู้ว่าการดื่มสักแก้วสองแก้วจะทำให้คุณมีโลกทรรศน์อันเซ็กซี่ได้ ซึ่งก็ดีอยู่หรอก แต่มันไม่ได้ช่วยให้คุณฉลาดขึ้นแต่ประการใด การมีเซ็กซ์ในเขตอันตรายอันกว้างขวางระหว่าง “มึนนิดๆ” กับ “เมาปลิ้น” นั้นเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อกามโรคมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคุณจะมีแนวโน้มลดลงในการยืนกรานให้เขาใช้ถุงยาง หรือ รู้ว่าเขาสวมมันอย่างถูกต้องหรือเปล่า ไม่ต้องพูดถึงว่าคุณจะมีสติพอที่จะหยิบถุงยางอันของคุณออกมาใช้หรอก คุณจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ หรือกำลังมีอะไรกับใคร เพราะฉะนั้นอย่าดื่มสุราจนมึนเมาเป็นอันขาด ไม่ว่าคุณจะขับรถหรือควบคน
: ให้แน่ใจว่ามันแนบกระชับ
ถุงยางแทบไม่มีประโยชน์เลยถ้าไม่ครอบคลุมตลอดองคชาตอย่างแนบกระชับ และมีช่องว่างเล็กๆตรงปลายสำหรับรองรับน้ำอสุจิขณะไคลแม็กซ์
รายงานข่าวเมื่อเร็วๆนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ชายจำนวนมากชอบซื้อถุงยางที่มีขนาดใหญ่เกินตัวองคชาตของเขา เพราะมันช่วยปลอบอหังการของพวกเขา (ว่ากูใหญ่นะเฟ้ย) แม้ว่าถุงยางอันนั้นจะหลวมโพรกเหมือนสวมถุงก๊อบแก๊บก็ตาม แต่ความหลวมมันหมายถึง แนวโน้มที่ถุงยางจะหลุดอยู่ในตัวคุณผู้หญิง อันเป็นการเปิดสู่การติดเชื้อกามโรคอย่างยิ่ง
ดังนั้น คุณควรจับตามองผู้ชายของคุณขณะเขารูดสวมถุงยาง และถ้ามันไม่ฟิต อย่างกางเกงยีนส์แนบเนื้อตัวโปรดของคุณละก็ รีบไปหยิบอันของคุณเองและพูดในทำนองว่า “ใช้ของฉันเถอะ รุ่นนี้ทำให้ฉันเร่าร้อนกว่าเยอะ” จากนั้นก็ยื่นขนาดมาตรฐานให้เขา
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net