ก.พลังงานส่งสัญญาณอุ้มราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรต่อไปแม้เงินกองทุนน้ำมันฯจะเหลือให้อุดหนุนแค่60สตางค์/ลิตรเท่านั้นเหตุกองทุนน้ำมันรวมยังมีวงเงินเหลืออยู่แต่ต้องรอนโยบายเคาะ
นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดพลังงานเปิดเผยถึงยุทธศาสตร์การบริหารราคาพลังงานว่า นโยบายของกระทรวงพลังงานยังจะดูแลราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรเพื่อดูแลผลกระทบค่าครองชีพประชาชนโดยขณะนี้ยังมีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่จัดเก็บจากดีเซลเหลืออีก 60 สตางค์ต่อลิตรซึ่งสามารถใช้เป็นกลไกชะลอการปรับราคาดีเซลได้อย่างน้อยอีก 1 ครั้ง หลังจากนั้นหากหมดก็สามารถนำเงินของกองทุนฯที่เหลือขณะนี้ 1.4 หมื่นล้านบาทมาอุดหนุนได้แต่ทั้งนี้คงจะต้องให้ระดับนโยบายเป็นผู้เห็นชอบก่อน
“การกำกับดูแลราคาพลังงานนั้นจะต้องทำด้วยความเป็นกลางดังนั้นนโยบายรัฐจึงพยายามที่จะให้อำนาจการกำกับดูแลไปอยู่ที่หน่วยงานอิสระที่ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องเช่น กรณีของค่าไฟฟ้าก็อยู่ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานหรือเรกูเลเตอร์ การอุดหนุนราคาพลังงานมีความจำเป็นในการดูแลเศรษฐกิจระยะสั้นแต่หากนานไปไม่สะท้อนราคาที่แท้จริงที่สุดก็ไม่ได้เป็นผลดี”นายคุรุจิตกล่าว
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านน้ำมันกล่าวว่า มีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลต่อไปอีกจนถึงสิ้นปีเนื่องจากขณะนี้ภาพรวมราคาน้ำมันยังคงทรงตัวระดับสูงซึ่งหากไม่สามารถทยอยลดลงมาในช่วง 1-2 เดือนนี้โอกาสที่จะไปทำสิ้นปีก็จะยากมากขึ้นเนื่องจากปกติช่วงสิ้นปีจะเป็นราคาขาขึ้นของดีเซลตลาดโลกจากความต้องการที่สูงในช่วงฤดูหนาวของสหรัฐอเมริกาและยุโรป
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า รัฐบาลควรทะยอยขึ้นภาษีสรรพสามิตรดีเซลครั้งละ 50 สตางค์/ลิตร เพราะขณะนี้ อัตราเงินเฟ้อ ยังอยู่ในระดับต่ำ หากปรับขึ้นในปี 2556 ที่เศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว และราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น อาจมีผลต่อความรู้สึกของประชาชนได้โดยระหว่างการปรับขึ้นรัฐบาลจะต้องมีมาตรการในการดูแลราคาสินค้าและต้นทุนให้กับภาคธุรกิจด้วย