นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ตนสนับสนุนการปรับโครงสร้างราคาพลังงานของรัฐบาลให้เป็นไปตามกลไกลตลาด เพราะช่วยให้ประชาชนประหยัดพลังงานมากขึ้น และรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ด้วย โดยรัฐบาลควรทยอยปรับราคาพลังงาน โดยเฉพาะก๊าซหุงต้ม หรือ LPG สำหรับภาคขนส่งและภาคครัวเรือน ประมาณ 1-2 บาทต่อกิโลกรัม ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เพราะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว ประชาชนและภาคธุรกิจรับภาระได้
เช่นเดียวกับภาษีสรรพสามิตดีเซล ที่ควรทยอยปรับขึ้นครั้งละ 50 สตางค์ เพราะขณะนี้อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ หากปรับขึ้นในปีหน้าที่เศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว และราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น อาจมีผลต่อความรู้สึกของประชาชนได้ โดยระหว่างการปรับขึ้นรัฐบาลจะต้องมีมาตรการในการดูแลราคาสินค้าและต้นทุนให้กับภาคธุรกิจด้วย
เช่นเดียวกับภาษีสรรพสามิตดีเซล ที่ควรทยอยปรับขึ้นครั้งละ 50 สตางค์ เพราะขณะนี้อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ หากปรับขึ้นในปีหน้าที่เศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว และราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น อาจมีผลต่อความรู้สึกของประชาชนได้ โดยระหว่างการปรับขึ้นรัฐบาลจะต้องมีมาตรการในการดูแลราคาสินค้าและต้นทุนให้กับภาคธุรกิจด้วย