“ปตท.-พลังงาน” ถกนำ “เอทานอล” เข้าเทรดในตลาด “เอเฟท” ปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องต้นทุนจริงแทนการอ้างอิงราคา “สนพ.” ส่วนราคาส่งออกยังอ้างอิง “ฟิลิปปินส์” ผู้นำเข้าเป็นผู้กำหนดราคาในภูมิภาค ลั่นต้องดันไทยผู้ผลิต-ส่งออกรายใหญ่ ควรกำหนดราคาเองเพื่อใช้เป็นราคากลางในภูมิภาคแทน “บางจาก” เชื่อการซื้อขายล่วงหน้าไม่กระทบผู้ค้าน้ำมัน แต่ระวังการปั่นราคาหากมีผู้ค้าน้อยราย ย้ำต้องมีมาตรการรักษาผลประโยชน์ “เกษตรกร” หากยกเลิกขายเบนซิน 91 ต.ค.นี้ ดันอุปสงค์ “เอทานอล” ผสมทำแก๊สโซฮอล์เพิ่มทันทีวันละ 8 แสนลิตร ตอบสนองปริมาณการใช้วันละ 2 ล้านลิตร
นายประวิทย์ ประกฤตศรี กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจพลังงาน บริษัทมิตรผล ไบโอฟูเอล จำกัด เปิดเผยว่า ผู้ผลิตเอทานอล บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ซื้อเอทานอลรายใหญ่ และกระทรวงพลังงาน ได้หารือกันเพื่อเตรียมการซื้อขายเอทานอลเข้าสู่ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า หรือเอเฟท (AFET) ภายในปีนี้ เพื่อให้ราคาเอทานอลสอดคล้องกับต้นทุนจริง แทนการอ้างอิงจากราคาของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ที่บางครั้งไม่สอดคล้องกับราคาซื้อขายจริงในประเทศ
ส่วนการส่งออกเอทานอลขณะนี้ใช้ราคาภูมิภาคของประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นผู้นำเข้า ดังนั้นไทยในฐานะผู้ผลิตเอทานอลรายใหญ่ และส่งออกไปยังหลายประเทศควรกำหนดได้เองเพื่อใช้เป็นราคากลางตลาดในภูมิภาคแทน
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล ผู้บริหารบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การซื้อขายล่วงหน้าไม่กระทบต่อผู้ค้าน้ำมัน เพราะว่ามีสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับน้ำมันทั้งหมด แต่จะช่วยให้ผู้ผลิตเอทานอลสามารถประเมินราคาซื้อขายได้ แต่ต้องระวังการปั่นราคาหากจำนวนผู้ค้าในตลาดล่วงหน้ามีน้อยราย
นอกจากนี้ ยังควรมีมาตรการรักษาผลประโยชน์ให้เกษตรกร หากสถานีบริการน้ำมันยกเลิกจำหน่ายเบนซิน 91 ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ในเดือนตุลาคม 2555 ผู้ผลิตเอทานอลประเมินว่า ปริมาณความต้องการเอทานอลมาผสมในน้ำมันแก๊สโซฮอล์จะเพิ่มเป็น 2 ล้านลิตรต่อวัน จากเดิมที่ 1.2 ล้านลิตร ซึ่งไม่มีปัญหาการขาดแคลนอย่างแน่นอน เนื่องจากปัจจุบันผลิตได้ถึง 3 ล้านลิตรต่อวัน
