ASTVผู้จัดการรายวัน- “บางจาก” แนะรัฐบาลขอความร่วมมือบริษัทน้ำมันแบ่งสัดส่วนรับซื้อเอทานอลจากมันสำปะหลัง และโมลาส อย่างละ 50% เพื่อแก้ปัญหากรณีวัตถุดิบชนิดใดชนิดหนึ่งแพงกว่าทำให้ผู้ค้าแห่ไปซื้อ ทำให้ รง.อีกฟากต้องหยุดผลิต ผู้ผลิตเอทานอลค้านแนะให้ซื้อในราคาอ้างอิงแทน
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีที่รัฐบาลประกาศนโยบายยกเลิกจำหน่ายเบนซิน 91 วันที่ 1 ต.ค.2555 เพื่อส่งเสริมการใช้เอทานอลในการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อย่างไรก็ตาม ต้องการให้รัฐบาลพิจารณานโยบายการขอความร่วมมือจากบริษัทน้ำมันในประเทศแบ่งสัดส่วนการรับซื้อเอทานอลจากกากน้ำตาล (โมลาส) และมันสำปะหลังอย่างละ 50% เพื่อส่งเสริมธุรกิจเอทานอลและเกษตรกรให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน
“ผมถือว่ารัฐบาลนี้กล้าหาญมากที่ประกาศชัดเจนที่จะยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 ในวันที่ 1 ตุลาคม 2555 เพื่อส่งเสริมการใช้เอทานอลที่ผลิตจากพืชเกษตรในประเทศ ซึ่งจะทำให้การใช้เอทานอลสูงกว่า 2 ล้านลิตรต่อวันแต่จะให้ยั่งยืนควรจะให้ผู้ค้าน้ำมันรับซื้อจากเอทานอลที่ผลิตจากโมลาส 50% และมันสำปะหลัง 50% หรือเฉลี่ยอย่างละ 1 ล้านลิตรต่อวัน เมื่อเลิกขายเบนซิน 91 เพื่อแก้ปัญหาเมื่อวัตถุดิบใดราคาแพง ก็จะทำให้ผู้ค้าหันไปซื้อเอทานอลจากวัตถุดิบที่ราคาต่ำกว่า” นายอนุสรณ์ กล่าว
ปัจจุบันพบว่า ผู้ผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังมีต้นทุนสูงกว่า ทำให้ราคาเอทานอลแพงกว่าโมลาสประมาณ 2 บาทต่อลิตร จึงทำให้ผู้คาน้ำมันหันไปซื้อกับผู้ผลิตจากโมลาสแทน ส่งผลให้บางโรงงานต้องปิดกิจการชั่วคราว ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะเป็นเช่นนี้สลับกันไปเมื่อวัตถุดิบตัวใดตัวหนึ่งแพง ดังนั้น หากผู้ค้าน้ำมันซื้ออย่างละ 50% เมื่อนำไปผสมกันเพื่อจำหน่ายก็ไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องราคามากนัก
นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี นายกสมาคมผู้ค้าและผลิตเอทานอลไทย กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังต้องหยุดผลิตชั่วคราวประมาณ 3 ราย เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงไม่คุ้มทุน เพราะราคาหัวมันเฉลี่ยสูงถึง 2.80-3 บาทต่อกิโลกรัม มันเส้นสูง 7-8 บาทต่อ กก.แต่ไม่เห็นด้วยหากจะแก้ไขปัญหาด้วยการให้ผู้ค้าน้ำมันแบ่งซื้อจากมันสำปะหลัง และโมลาสอย่างละ 50% เพราะโรงงานผลิตจากมันสำปะหลังมีน้อยกว่าโมลาส ทางที่ดีผู้ค้าน้ำมันควรจะรับซื้อเอทานอลในราคาอ้างอิง
“โรงงานผลิตจากมันอย่างเดียวมี 3 แห่ง แต่อีก 4 แห่ง แม้จะผลิตจากมันแต่สามารถปรับไปผลิตจากโมลาสได้หรือประเภทไฮบริดจ์ แต่ที่ผลิตจากโมลาสมีมากกว่า 10 แห่ง ถ้าซื้ออย่างละ 50% ก็ไม่ใช่ทางแก้เพราะตอนที่โมลาสราคาแพงเขาก็รับภาระเช่นกัน แต่ทำไมผู้ค้าไม่ซื้อในราคาอ้างอิงเพราะเฉลี่ยที่ผ่านมาซื้อต่ำกว่าตลอด” นายสิริวุทธิ์ กล่าว
ปัจจุบันการใช้เอทานอลอยู่ระดับ 1 ล้านลิตรต่อวัน เนื่องจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้การใช้น้ำมันปรับลดลงจึงส่งผลต่อการใช้เอทานอลลดลงเฉลี่ย 2-3 แสนลิตรต่อวัน ซึ่งขณะนี้การใช้เริ่มไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ และหวังว่าเมื่อถึงตุลาคม 2555 การใช้น่าจะขยับไปอยู่ที่ 2 ล้านลิตรต่อวันเพราะรัฐบาลเลิกขายเบนซิน 91
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีที่รัฐบาลประกาศนโยบายยกเลิกจำหน่ายเบนซิน 91 วันที่ 1 ต.ค.2555 เพื่อส่งเสริมการใช้เอทานอลในการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อย่างไรก็ตาม ต้องการให้รัฐบาลพิจารณานโยบายการขอความร่วมมือจากบริษัทน้ำมันในประเทศแบ่งสัดส่วนการรับซื้อเอทานอลจากกากน้ำตาล (โมลาส) และมันสำปะหลังอย่างละ 50% เพื่อส่งเสริมธุรกิจเอทานอลและเกษตรกรให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน
“ผมถือว่ารัฐบาลนี้กล้าหาญมากที่ประกาศชัดเจนที่จะยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 ในวันที่ 1 ตุลาคม 2555 เพื่อส่งเสริมการใช้เอทานอลที่ผลิตจากพืชเกษตรในประเทศ ซึ่งจะทำให้การใช้เอทานอลสูงกว่า 2 ล้านลิตรต่อวันแต่จะให้ยั่งยืนควรจะให้ผู้ค้าน้ำมันรับซื้อจากเอทานอลที่ผลิตจากโมลาส 50% และมันสำปะหลัง 50% หรือเฉลี่ยอย่างละ 1 ล้านลิตรต่อวัน เมื่อเลิกขายเบนซิน 91 เพื่อแก้ปัญหาเมื่อวัตถุดิบใดราคาแพง ก็จะทำให้ผู้ค้าหันไปซื้อเอทานอลจากวัตถุดิบที่ราคาต่ำกว่า” นายอนุสรณ์ กล่าว
ปัจจุบันพบว่า ผู้ผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังมีต้นทุนสูงกว่า ทำให้ราคาเอทานอลแพงกว่าโมลาสประมาณ 2 บาทต่อลิตร จึงทำให้ผู้คาน้ำมันหันไปซื้อกับผู้ผลิตจากโมลาสแทน ส่งผลให้บางโรงงานต้องปิดกิจการชั่วคราว ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะเป็นเช่นนี้สลับกันไปเมื่อวัตถุดิบตัวใดตัวหนึ่งแพง ดังนั้น หากผู้ค้าน้ำมันซื้ออย่างละ 50% เมื่อนำไปผสมกันเพื่อจำหน่ายก็ไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องราคามากนัก
นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี นายกสมาคมผู้ค้าและผลิตเอทานอลไทย กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังต้องหยุดผลิตชั่วคราวประมาณ 3 ราย เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงไม่คุ้มทุน เพราะราคาหัวมันเฉลี่ยสูงถึง 2.80-3 บาทต่อกิโลกรัม มันเส้นสูง 7-8 บาทต่อ กก.แต่ไม่เห็นด้วยหากจะแก้ไขปัญหาด้วยการให้ผู้ค้าน้ำมันแบ่งซื้อจากมันสำปะหลัง และโมลาสอย่างละ 50% เพราะโรงงานผลิตจากมันสำปะหลังมีน้อยกว่าโมลาส ทางที่ดีผู้ค้าน้ำมันควรจะรับซื้อเอทานอลในราคาอ้างอิง
“โรงงานผลิตจากมันอย่างเดียวมี 3 แห่ง แต่อีก 4 แห่ง แม้จะผลิตจากมันแต่สามารถปรับไปผลิตจากโมลาสได้หรือประเภทไฮบริดจ์ แต่ที่ผลิตจากโมลาสมีมากกว่า 10 แห่ง ถ้าซื้ออย่างละ 50% ก็ไม่ใช่ทางแก้เพราะตอนที่โมลาสราคาแพงเขาก็รับภาระเช่นกัน แต่ทำไมผู้ค้าไม่ซื้อในราคาอ้างอิงเพราะเฉลี่ยที่ผ่านมาซื้อต่ำกว่าตลอด” นายสิริวุทธิ์ กล่าว
ปัจจุบันการใช้เอทานอลอยู่ระดับ 1 ล้านลิตรต่อวัน เนื่องจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้การใช้น้ำมันปรับลดลงจึงส่งผลต่อการใช้เอทานอลลดลงเฉลี่ย 2-3 แสนลิตรต่อวัน ซึ่งขณะนี้การใช้เริ่มไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ และหวังว่าเมื่อถึงตุลาคม 2555 การใช้น่าจะขยับไปอยู่ที่ 2 ล้านลิตรต่อวันเพราะรัฐบาลเลิกขายเบนซิน 91