ธพ.เตรียมเสนอ กบง.หามาตรการช่วยเหลือโรงกลั่นที่ต้องนำเข้า G-base เพื่อเดินหน้ายกเลิกขายเบนซิน 91 วันที่ 1 ต.ค. 55 ตามแผนเดิม เพื่อมุ่งส่งเสริมการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์โดยเฉพาะ E20 พร้อมเล็งเพิ่มส่วนต่างราคา E20 ให้ถูกกว่า E10 ลิตรละ 5-6 บาทจูงใจการใช้
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้จะเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณามาตรการช่วยเหลือกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันเพื่อลดผลกระทบนโยบายการยกเลิกเบนซิน 91 ในวันที่ 1 ต.ค. 55 ซึ่งจากการหารือโรงกลั่นจะต้องนำเข้าน้ำมันเบนซินพื้นฐานพิเศษ (G-base) เข้ามาผสมกับแก๊สโซฮอล์ที่จะทำให้ต้นทุนเพิ่ม ดังนั้นอาจจะต้องปรับต้นทุนหน้าโรงกลั่นให้เหมาะสม เพื่อที่จะเดินหน้าการส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์โดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ E20
ทั้งนี้ จากการหารือกับผู้ค้าน้ำมันบริษัท เชลล์ ประเทศไทย จำกัด ระบุชัดเจนว่าถ้ายกเลิกเบนซิน 91 จะทำให้มีหัวจ่ายที่จะนำมาขายแก๊สโซฮอล์เพิ่มได้ โดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ E20 ที่ขณะนี้มีรถใหม่ที่ใช้ได้สูงถึง 1 ล้านคันแต่กลับพบว่ายังมีการใช้น้อยซึ่งสาเหตุคาดว่าจะมาจาก 2 กรณี คือ 1. ส่วนต่างราคายังไม่จูงใจโดยผู้ค้าน้ำมันเสนอให้ราคา E10 และ E20 ต่างกันประมาณ 5-6 บาทต่อลิตร 2. ปั๊มน้ำมันที่จำหน่าย E20 มีจำนวนน้อยโดยเฉพาะในต่างจังหวัด
“คาดว่า กบง.จะมีการพิจารณาเพิ่มส่วนต่างราคา E10 และ E20 เพิ่มขึ้นเพื่อจูงใจการใช้ E20ซึ่งหากการใช้ E20 มากขึ้นแน่นอนว่าจะใช้เอทานอลในการผสมสูงตามไปด้วย ดังนั้นการนำเข้า G-Base ก็จะลดลงตาม ซึ่งเบื้องต้น ปตท.และบางจากมีแผนขยายปั๊ม E20 ปีนี้รวมกันเพิ่มอีกถึง 1,200 แห่ง อย่างไรก็ตาม ค่าการตลาดการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์เฉลี่ยที่ 1.67 บาทต่อลิตร E20 อยู่ที่ 2.50 บาทต่อลิตรนั้นถือว่าอยู่ในอัตราเหมาะสมแล้วคงจะไม่เพิ่มให้อีก” นายวีระพลกล่าว
