AOC เรียกร้อง ทอท.ลดค่า Landing 50% เยียวยาสายการบินเหตุรันเวย์ยุบ ส่วนกรณีไปลงสนามบินอื่นต้องยกเว้นเลย ชี้สายการบินมีต้นทุนเพิ่มทั้งค่าธรรมเนียมและค่าน้ำมันค่า ระบุทอท.ต้องดูแลสายการบินในช่วงที่สถานการณ์ไม่ปกติ เกิดเหตุซ้ำซ้อนหลังจากเรดาร์ล่ม ก่อนย้ายไปใช้สนามบินอื่นในภูมิภาคนี้แทน เพราะไม่เชื่อมั่น
นางมาริสา พงษ์พัฒนพันธุ์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน (AOC) เปิดเผยถึงเหตุรันเวย์ฝั่งตะวันตกของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยุบตัว เมื่อช่วงหัวค่ำ ของวันที่ 5 กรกฎาคม ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่สายการบินไม่ได้เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า จึงได้รับผลกระทบและต้องนำเครื่องบินไปลงที่ท่าอากาศยานสำรองอื่น คือ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานอู่ตะเภา และท่าอากาศยานเชียงใหม่ ทำให้สายการบินมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จากค่าธรรมเนียมที่ต้องใช้ท่าอากาศยานสำรอง และยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแลผู้โดยสารเพิ่มอีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสายการบินไม่ต้องการที่จะไปลงที่ท่าอากาศยานอื่นนอกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงต้องการเรียกร้องให้ ทอท.ดูแลกรณีที่สายการบินต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ซึ่งการที่สุวรรณภูมิมีการซ่อมแซมรันเวย์ช่วงกลางคืนวันที่ 5 กรกฎาคม เป็นการซ่อมเล็ก แต่บังเอิญตรงกับการซ่อมแซมใหญ่ของรันเวย์ฝั่งตะวันออก เมื่อมีปัญหาผลกระทบจึงมาก
“สายการบินไม่ต้องการไปลงที่สนามบินอื่น และไม่ได้เผื่อค่าใช้จ่ายไว้รองรับในกรณีดังกล่าว ทาง AOC จึงขอเรียกร้องอย่างจริงจังกับทอท.โดยเป็นข้อเรียกร้องเดิมที่เคยเสนอก่อนหน้านี้ คือ ขอลดค่าธรรมเนียมขึ้น-ลงและที่เก็บอากาศยาน (Landing & Parking Fee) 50% ในช่วงที่ปิดซ่อมรันเวย์ฝั่งตะวันออก และขอยกเว้นการเก็บค่า Landing กับสายการบินต่างๆที่ต้องนำเครื่องนิไปลงที่ท่าอากาศยานอื่นแทนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย” นางมาริสา กล่าว
นางมาริสากล่าวว่า ช่วงก่อนหน้านี้ ระบบเรดาร์ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเกิดขัดข้องทำให้ท่าอากาศยานดอนเมืองใช้งานไม่ได้ สายการบินได้รับผลกระทบพอสมควร จึงยังตอบไม่ได้ว่า สายการบินต่างประเทศจะยังมั่นใจประเทศไทย 100% อยู่หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมา AOC ได้ให้ความร่วมมือกับทอท.มาอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเกิดเหตุแล้วส่งผลให้สายการบินมีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น ทอท.ควรดูแลสายการบินอย่างจริงใจในช่วงที่เหตุการณ์ไม่ปกติ
อย่างไรก็ตาม AOC เป็นผู้ประสานงานกับทางสายการบินของต่างประเทศ ก็ไม่ต้องการให้เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้สายการบินต่างๆหันไปใช้ท่าอากาศยานประเทศอื่นแทน เพราะท่าอากาศยานของหลายประเทศในภูมิภาคนี้มีศักยภาพมากเช่นกัน แต่ประเทศไทยถือว่ามีความพร้อมในหลายๆ ด้านที่ทำให้เป็นศูนย์กลางการบิน