xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนเสนอคลังยกเว้นภาษีหนุนบริษัทไทยไปลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอกชนเสนอคลังเร่งออกพระราชกฤษฎีกายกเว้นการเสียภาษีสำหรับบริษัทไทยที่ไปลงทุนต่างประเทศ หลังค้างมาตั้งแต่รัฐบาลก่อน เพื่อช่วยให้คนไทยออกไปลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้น และเตรียมรับมือการเปิดเสรี AEC ปี 2558 ก่อนที่นักลงทุนจะเผ่นหนีไปสิงคโปร์หมด

นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานคณะกรรมการกฎหมายภาษีอากร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เอกชนขอเรียกร้องไปยังนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้เร่งพิจารณาผลักดันร่างแก้ไขพระราชกฤษฎีกา ฉบับที่ 442 ที่ว่าด้วยการยกเว้นภาษีให้บริษัทไทยที่ออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพราะเป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อการสนับสนุนให้ธุรกิจคนไทยออกไปลงทุนต่างประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล และยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้ภาคธุรกิจไทยในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558

ทั้งนี้ ร่างแก้ไขพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวได้ดำเนินการมาแล้วตั้งแต่สมัยรัฐบาลก่อน ซึ่งได้มีการตัดเงื่อนไขในเรื่องการเสียภาษีของบริษัทไทยในต่างประเทศ โดยเหลือแค่ว่าหากบริษัทไทยที่ไปลงทุนต่างประเทศได้เสียภาษีเงินได้ไม่ว่าในชั้นใดชั้นหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของบริษัทที่ประกอบการหรือบริษัทที่ถือหุ้นในโฮลดิ้ง เงินปันผลที่ส่งกลับเข้ามาจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้

“หลังจากเปลี่ยนรัฐบาล เรื่องได้ถูกส่งกลับมายังนายกิตติรัตน์ เพื่อพิจารณาว่าเห็นด้วยหรือไม่ แต่เอกชนทราบว่าท่านรัฐมนตรีไม่เห็นชอบกับนโยบายภาษีดังกล่าว โดยขอให้กรมสรรพากรพิจารณาข้อมูลใหม่ เพราะเห็นว่าอาจจะเป็นช่องทางในการหนีภาษีของบริษัทไทย และไม่อยากให้บริษัทนำเงินต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยเพื่อไม่ให้เงินบาทแข็งตัว ซึ่งไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นนั้นหรือไม่ แต่เอกชนเห็นว่ารัฐบาลควรจะเร่งออกพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจไทยที่ไปลงทุนต่างประเทศ เพราะนโยบายที่สวนทางทำให้บริษัทไทยมีต้นทุนแพงกว่าบริษัทในประเทศอื่น จึงอยากขอให้นายกิตติรัตน์พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง”นายกิติพงศ์กล่าว

นายกิติพงศ์กล่าวว่า การลงทุนในต่างประเทศของบริษัทไทยควรเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาและให้ความสำคัญอย่างจริงจัง หากรัฐบาลไม่สนใจต่อข้อเรียกร้องของเอกชน ทำให้อาจมีบริษัทไทยที่ไปลงทุนต่างประเทศไม่นำเงินปันผลกลับมาประเทศไทย และจะยิ่งทำให้ประเทศไทยเสียประโยชน์ในภาพรวม เพราะบริษัทก็จะนำเงินไปลงทุนต่อหรือเก็บเงินไว้ในต่างประเทศ ประเทศไทยก็จะไม่ได้อะไรเลย

นอกจากนี้ ในภาวะวิกฤตยุโรปที่เกิดขึ้นอาจทำให้ไทยสามารถซื้อของได้ถูก ก็ควรพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสหาช่องทางการซื้อทรัพย์สินและกิจการในต่างประเทศให้เป็นของคนไทย และเร็วๆ นี้จะมีการดำเนินการเปิดเสรี AEC ในปี 2558 ซึ่งหากนโยบายในเรื่องนี้ไม่ชัด นักลงทุนก็อาจจะหันไปลงทุนที่สิงคโปร์แทนที่จะมาลงทุนในไทย ซึ่งทำให้ไทยเสียโอกาสเพิ่มขึ้นอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น