กบง.เคาะลดราคาแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค. 55 ลง 3 บาทต่อ กก.หรืออยู่ที่ 24.86 บาทต่อ กก. หลังราคาแอลพีจีโลกรูดต่ำกว่า 100 เหรียญต่อตันมาอยู่ที่ 593 เหรียญต่อตัน พร้อมให้ ธพ.ประกาศเพิ่มสำรองน้ำมันเอกชนจาก 5% เป็น 6% ภายใน 90 วันโดยรายใดไม่พร้อมให้ยื่นผ่อนผันเพื่อพิจารณาแต่ละรายได้
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2555 ว่า ที่ประชุม กบง.ได้พิจารณาปรับลดราคาขายปลีกแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมจากเดือน มิ.ย. 55 ที่ประกาศอยู่ที่ 27.89 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ลดลงเหลือ 24.86 บาทต่อ กก.มีผลตั้งแต่ 1 ก.ค.-31 ก.ค. 55 เนื่องจากราคาแอลพีจีตลาดโลก (CP) อยู่ที่ 593 เหรียญสหรัฐต่อตัน ลดลงจากเดือน มิ.ย. 55 ที่ราคาอยู่ในระดับ 714 เหรียญต่อตัน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางและแผนงานการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงทางยุทธศาสตร์ของประเทศ โดยเห็นชอบในหลักการให้ปรับเพิ่มอัตราสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามกฎหมายของภาคเอกชนจากเดิม 5% เป็น 6% และมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) รับไปดำเนินการออกประกาศกรมธุรกิจพลังงานเพื่อปรับเพิ่มอัตราสำรอง โดยให้มีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน
“อย่างไรก็ตาม หากโรงกลั่นน้ำมันและผู้ค้าน้ำมันบางรายประสบปัญหาด้าน Facility เพื่อรองรับการสำรองน้ำมันให้ผู้ค้าขอยื่นผ่อนผันและจะมีการพิจารณาเป็นรายๆ ไป” นายอารักษ์กล่าว
ในการปรับเพิ่มอัตราสำรองน้ำมันตามกฎหมายของภาคเอกชนเป็น 6% จะทำให้ประเทศไทยมีน้ำมันสำรองใช้ได้เพิ่มขึ้นจาก 36 วัน เป็นประมาณ 43 วันของความต้องการใช้ในประเทศ หรือประมาณ 28 ล้านบาร์เรล พร้อมกันนี้ กบง.ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) รับไปกำหนดราคาหน้าโรงกลั่นให้เหมาะสม เพื่อชดเชยภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการปรับอัตราสำรอง
สำหรับแผนงานการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงทางยุทธศาสตร์ของประเทศที่เป็นการสำรองของภาครัฐ จะมีการพิจารณารูปแบบองค์กรและการบริหารจัดการที่เหมาะสมสำหรับประเทศ และนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป โดยคาดว่าผลการศึกษาโครงสร้างทั้งหมดจะสรุปได้ภายในเดือน ก.ย. 55
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.ยังอนุมัติเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการชดเชยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่ผสมเอทานอลจากมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นจากเดิมในวงเงิน 180 ล้านบาท เป็นในวงเงิน 222 ล้านบาท โดยใช้ราคามันเส้นที่โรงงานเอทานอลซื้อจากคลังกลางเฉลี่ยเท่ากับ 7.9479 บาท/กก. และขยายระยะเวลาการชดเชยเป็น 5 เดือนนับตั้งแต่วันที่มีการซื้อขายมันเส้นจากคลังกลางขององค์การคลังสินค้า (อคส.)
