“กบง.” ทบทวนราคามันฯ เส้นผลิตเอทานอลอยู่ที่ 7,319 บาท/ตัน ลดลงจากเดิม พาณิชย์กำหนดไว้ 7,947 บาท/ตัน ลดภาระเงินชดเชยราคาแก๊สโซฮอล์ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เผยยังไม่รีดเงินเข้ากองทุนฯ หลังน้ำมันโลกเริ่มขยับขึ้น ขอดูอีก 1-2 วัน
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 55 ว่า ที่ประชุมมีมติทบทวนสูตรราคาเอทานอลที่ผลิตจากมันสำปะหลังใหม่ โดยกำหนดราคามันฯ เส้นที่ใช้ผลิตเอทานอลอยู่ที่ 7,315 บาท/ตัน หรือ 7.31 บาท/กก. จากเดิมที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้ 7,947 บาท/ตัน หรือ กก.ละ 7.4 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงเกินไปเพราะได้นำต้นทุนดอกเบี้ยและการจัดเก็บมันมารวมอยู่ด้วยจึงปรับลดลงมาเพื่อให้เป็นราคาที่สะท้อนต้นทุนจริงสำหรับด้านพลังงานและลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการจ่ายชดเชยราคาแก๊สโซฮอล์
“กระทรวงพลังงานจะส่งกลับไปยังกระทรวงพาณิชย์เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบและประกาศเป็นราคารับซื้อมันสำปะหลังเพื่อใช้ในการผลิตเอทานอล เนื่องจากราคาที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศไม่ตรงกับราคาประกาศของกระทรวงพลังงาน” นายอารักษ์กล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการผลิตเอทานอลจากมันฯ มีต้นทุนการผลิตจากกากน้ำตาล (โมลาส) โดยมีราคาต่างกันอยู่ 6.70 บาท/ลิตร ประกอบกับขณะนั้นมันฯ มีราคาตกต่ำกระทรวงพลังงานจึงมีมาตรการช่วยเหลือจัดโครงการสมัครใจให้ผู้ค้าน้ำมันเข้าไปรับซื้อเอทานอลที่ผลิตจากมันฯ โดยจะใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ เข้าไปจ่ายชดเชยราคาส่วนต่างที่เกิดขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณลิตรละ 67 สต./ลิตร สำหรับการผลิตแก๊สโซฮอล์ (อี10) คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 180 ล้านบาทในระยะเวลา 5 เดือน (พ.ค.-ก.ย.) คิดเป็นจำนวนเอทานอล 24.4 ล้านลิตร ขณะที่การใช้เอทานอลอยู่ที่วันละ 1.3 ล้านลิตร โดยเอทานอลที่ผลิตออกมาจะใช้วัตถุดิบจากโมลาสสัดส่วน 80-85% ที่เหลือ 15-20% ผลิตจากมันฯ
นายอารักษ์กล่าวถึงแนวโน้มราคาน้ำมันว่า ที่ประชุมครั้งนี้ยังไม่มีการพิจารณาการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มเติม แม้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวลดลง แต่ล่าสุดปรับขึ้นไปประมาณ 4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หากกองทุนน้ำมันฯ จัดเก็บเงินเพิ่มในช่วงนี้ก็จะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นจนส่งผลกระทบต่อประชาชน ดังนั้นจะขอติดตามสถานการณ์ 1-2 วันนี้ หากระดับราคาน้ำมันลดลง กบง.ก็จะเรียกประชุมเพื่อจัดเก็บ
