“แอมโบรสไวน์” ฟื้นชีพ “วอดก้าครุยเซอร์” ในไทย รับสิทธิ์ทำตลาด หวังเป็นตัวหลักรุกตลาดปีนี้ เสริมพอร์ตโฟลิโอ ปั้นยอดขายสัดส่วน 20% ของรายได้รวม
นางสาวภัทราพร เตชะไพบูลย์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอมโบรส ไวน์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ จะมุ่งทำตลาดในกลุ่มสปิริตมากขึ้น จากพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ ที่มี 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มไวน์ สัดส่วนยอดขาย 60% 2. กลุ่มสปิริต สัดส่วนยอดขาย 35% และ 3. กลุ่มน้ำแร่ธรรมชาติ สัดส่วนยอดขาย 5% โดยปีนี้จะใช้แบรนด์ “วอดก้า ครุยเซอร์” เป็นตัวนำในการทำตลาดกลุ่มสปิริต
ทั้งนี้ แบรนด์วอดก้า ครุยเซอร์ เคยเข้ามาทำตลาดในไทยนานเมื่อ 8 ปีที่แล้ว และเลิกไป บริษัทฯ เข้ามารับสิทธิทำตลาดล่าสุด โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีส่วนแบ่งตลาดให้ได้ประมาณ 10% จากตลาดรวมอาร์ทีดีที่มีวอดก้าเป็นเบส รวมทั้งจะผลักดันให้แบรนด์นี้มีสัดส่วนยอดขายประมาณ 20% ของรายได้รวมบริษัทฯ ซึ่งมีประมาณ 450 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว และตั้งเป้าปีนี้รายได้รวมเติบโต 20% (ปีบัญชี 2554 ของบริษัทฯ สิ้นสุดเดือนกรกฎาคม 2555)
ปัจจุบันตลาดรวมอาร์ทีดีในประเทศไทยยังเล็กอยู่มาก ประมาณ 20 ล้านลิตรต่อปี หรือปริมาณการดื่ม 1 ขวดต่อคนต่อปี คาดว่าปีนี้ตลาดรวมต้องเติบโตประมาณ 10% แต่เป็นอันดับสองรองจากญี่ปุ่นซึ่งมากกว่าไทยเกือบ 10 เท่า โดยตลาดในไทยเติบโตประมาณ 4% ขณะที่กลุ่มสปิริตเบสเติบโตรวม 10%
การทำตลาดวอดก้าครุยเซอร์ของบริษัทฯ ในครั้งนี้ เป็นการนำเข้ามาจากโรงงานที่ออสเตรเลียโดยตรง ราคาจำหน่ายในไทย 59 บาท วางตำแหน่งเป็นระดับพรีเมียมที่นำเข้ารายเดียวในไทย เจาะตลาดทั้งออนพรีมิส และออฟพรีมิส รวมทั้งการทำกิจกรรมทั้งออนไลน์ ออนกราวนด์ เจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์ทั้งผู้ชายและผู้หญิง อายุ 20-30 ปี
นางสาวภัทราพร เตชะไพบูลย์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอมโบรส ไวน์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ จะมุ่งทำตลาดในกลุ่มสปิริตมากขึ้น จากพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ ที่มี 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มไวน์ สัดส่วนยอดขาย 60% 2. กลุ่มสปิริต สัดส่วนยอดขาย 35% และ 3. กลุ่มน้ำแร่ธรรมชาติ สัดส่วนยอดขาย 5% โดยปีนี้จะใช้แบรนด์ “วอดก้า ครุยเซอร์” เป็นตัวนำในการทำตลาดกลุ่มสปิริต
ทั้งนี้ แบรนด์วอดก้า ครุยเซอร์ เคยเข้ามาทำตลาดในไทยนานเมื่อ 8 ปีที่แล้ว และเลิกไป บริษัทฯ เข้ามารับสิทธิทำตลาดล่าสุด โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีส่วนแบ่งตลาดให้ได้ประมาณ 10% จากตลาดรวมอาร์ทีดีที่มีวอดก้าเป็นเบส รวมทั้งจะผลักดันให้แบรนด์นี้มีสัดส่วนยอดขายประมาณ 20% ของรายได้รวมบริษัทฯ ซึ่งมีประมาณ 450 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว และตั้งเป้าปีนี้รายได้รวมเติบโต 20% (ปีบัญชี 2554 ของบริษัทฯ สิ้นสุดเดือนกรกฎาคม 2555)
ปัจจุบันตลาดรวมอาร์ทีดีในประเทศไทยยังเล็กอยู่มาก ประมาณ 20 ล้านลิตรต่อปี หรือปริมาณการดื่ม 1 ขวดต่อคนต่อปี คาดว่าปีนี้ตลาดรวมต้องเติบโตประมาณ 10% แต่เป็นอันดับสองรองจากญี่ปุ่นซึ่งมากกว่าไทยเกือบ 10 เท่า โดยตลาดในไทยเติบโตประมาณ 4% ขณะที่กลุ่มสปิริตเบสเติบโตรวม 10%
การทำตลาดวอดก้าครุยเซอร์ของบริษัทฯ ในครั้งนี้ เป็นการนำเข้ามาจากโรงงานที่ออสเตรเลียโดยตรง ราคาจำหน่ายในไทย 59 บาท วางตำแหน่งเป็นระดับพรีเมียมที่นำเข้ารายเดียวในไทย เจาะตลาดทั้งออนพรีมิส และออฟพรีมิส รวมทั้งการทำกิจกรรมทั้งออนไลน์ ออนกราวนด์ เจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์ทั้งผู้ชายและผู้หญิง อายุ 20-30 ปี