หนุนทำวีซ่าออนไลน์ ลดความแออัดสนามบิน

กต.คล้อยตาม สทท.หนุนทำวีซ่าออนไลน์ หวังลดขั้นตอน แก้ปัญหาความแออัดที่สนามบิน ฉะ AOT ปิดรันเวย์ไม่ทำแผนรองรับกระทบท่องเที่ยว สะท้อนการทำงานบูรณาการที่ไม่สมบูรณ์

วันนี้ (27 มิ.ย.) จากการเข้าร่วมประชุมกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า กต. และที่ประชุมเห็นชอบในหลักการตามที่ สทท.เสนอให้มีการจัดทำวีซ่าออนไลน์ เพื่อช่วยลดความแออัดของนักท่องเที่ยวที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มความสะดวกในการให้บริการนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทย อันจะนำมาซึ่งรายได้ 2 ล้านล้านบาทในปี 2558

โดย กต.แจ้งว่าสามารถเสริมเข้าไปในบริการได้เลยโดยไม่ต้องแก้กฎหมาย แต่ทั้งนี้จะต้องนำเรื่องไปหารือกับสำนักตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ถึงวิธีการ ขณะที่ สทท.ก็จะนำเรื่องเสนอต่อนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อใช้เป็นข้อมูลไปหารือกับ ตม.ด้วยเช่นกัน

“รูปแบบของวีซ่าออนไลน์ที่ว่านี้อาจทำเป็นแอปพลิเคชันให้นักท่องเที่ยวเข้ามากรอกข้อมูล เมื่อได้รับอนุมัติจึงค่อยมาชำระค่าทำเนียมที่ปลายทาง ช่วยลดเวลาการกรอกข้อมูล ซึ่งที่ผ่านมาการทำวีซ่า ณ จุดผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง (วีซ่าออนอะไรวัล) ช่วยเพิ่มนักท่องเที่ยว แต่ก็เพิ่มความแออัดที่ ตม.” นางปิยะมานกล่าว

***หวั่นไทยเสียโอกาสเปิดตลาดใหม่****

ทั้งนี้ อีวีซ่าจะช่วยเพิ่มความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวจากตลาดใหม่ๆ ที่ ททท.และภาคเอกชนไปเปิดตลาดไว้ ซึ่งขณะนี้ติดปัญหาที่ไม่มีกงสุล นประเทศนั้นๆ ทำให้นักท่องเที่ยวต้องเดินทางไปขอวีซ่าจากกงสุลที่อยู่ในประเทศใกล้เคียงเพื่อเดินทางมาประเทศไทย จึงมีความยุ่งยากมาก และวีซ่าออนอะไรวัลก็เกิดความแออัดที่สนามบิน ดังนั้น หากไม่รีบแก้ไขจะทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว และอีวีซ่ายังสามารถคัดกรองนักท่องเที่ยว โดยไม่กระทบการดูแลเรื่องความมั่นคงของประเทศ ซึ่งมีหลายประเทศเริ่มนำระบบนี้มาใช้แล้ว เช่น อังกฤษ อเมริกา หรือแม้กระทั่งลาว และกัมพูชาก็ใช้ระบบนี้

****ฉะกรณีซ่อมรันเวย์สะท้อนปัญหาไม่บูรณาการ****

นางปิยะมานกล่าวอีกว่า กรณีการปิดซ่อมรันเวย์ที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นกรณีศึกษาได้ดีที่สะท้อนถึงการทำงานแบบไม่บูรณาการของแต่ละหน่วยงาน ทำให้กระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งที่รัฐบาลมีนโยบายให้ทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกัน ซึ่งการปิดซ่อมรันเวย์ ทางบริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) ควรแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ พร้อมเตรียมแผนรองรับร่วมกัน เพราะทุกวันนี้เครื่องบินต้องบินวนอยู่บนอากาศนานเป็นชั่วโมงกว่าจะได้นำเครื่องลง เสียเวลา เสียเชื้อเพลิง และยังทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยเสียไปด้วย ปัญหานี้ยังส่งผลให้เอกชนหลายรายที่ทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) มาไทยช่วงนี้ต้องชะลอการตัดสินใจเพราะติดปัญหาการจราจรที่สนามบิน ประเทศไทยก็เสียโอกาส

“ท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้และรัฐบาลก็มุ่งหวังที่เป้าหมาย 2 ล้านล้านบาทในปี 2558 ดังนั้น หากหลังจากนี้จะมีภาคส่วนใดจะตัดสินใจทำอะไรที่มีความเกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยว ควรเรียกผู้เกี่ยวข้องในภาคท่องเที่ยวไปหารือร่วมกันด้วยเพื่อเตรียมแนวทางรับมือ” นางปิยะมานกล่าว

***นักท่องเที่ยว มิ.ย.โตเกือบ 12%****

นายสุรพลยังกล่าวอีกว่า ที่ประชุมบอร์ด ททท.ยังมีการรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยช่วงมกราคม-พฤษภาคม มีจำนวนรวมทุกด่านที่ 8,871,930 คน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.27% ส่วนระหว่างวันที่ 1-26 มิ.ย. 55 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 953,818 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.55% และที่สนามบินภูเก็ต ระหว่างวันที่ 1-24 มิ.ย. 55 มีจำนวนนักท่องเที่ยว 122,792 คน เพิ่มขึ้น 11.71%